Last Updated on 7 November 2023
วัดพนัญเชิงวรวิหาร จ.พระนครศรีอยุธยา
หลังจากที่ตระเวนเที่ยวชมวัดและสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ในกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล กันมาอย่างเต็มอิ่มและพักผ่อนกันอย่างเต็มที่ แล้ว ผู้อ่านก็ลองเปิดอ่านในบทนี้ดูบ้าง เพราะคราวนี้ผู้เขียนจะพาออกจาก กรุงเทพฯ เมืองหลวงที่แสนร้อนและการจราจรที่แน่นขนัด ไปยังจังหวัดที่อยู่ นอกกรุงเทพฯกันบ้างดีกว่า เพราะยังมีหลายๆ สถานที่ที่น่าสนใจและควร แวะเวียนไปกราบไหว้บูชาบ้างเหมือนกัน และแต่ละที่ก็ดูน่าสนใจ ขลังไม่แพ้ สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ในกรุงเทพฯ เลยทีเดียว เราตามไปดูกันเลย
วัดพนัญเชิงวรวิหาร
ที่ตั้ง ต.คลองสวนพลู อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา
วัดพนัญเชิงฯ เป็นวัดที่ตั้งมานานก่อนสถาปนากรุงศรีอยุธยา ไม่ ปรากฏหลักฐานที่แน่ชัดว่าใครเป็นผู้สร้าง ตามหนังสือพงศาวดารเหนือกล่าว ว่า พระเจ้าสายน้ำผึ้งเป็นผู้สร้างและพระราชทานนามว่า “วัดเจ้าพระนางเชิง”
วัดแห่งนี้เป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปที่สำคัญองค์หนึ่งคือ “พระพุทธไตรรัตนนายก” หรือนิยมเรียกกันว่า “หลวงพ่อซำปอกง” หรือ “หลวงพ่อโต” เป็นพระพุทธรูปปูนปั้นปางมารวิชัยที่มีขนาดใหญ่ที่สุดใน พระนครศรีอยุธยา มีหน้าตักกว้าง 20 เมตรเศษ สูง 19 เมตร องค์พระได้รับ การบูรณะซ่อมแซมมาโดยตลอด จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2497 รัชสมัยพระบาท สมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 4) ได้โปรดเกล้าให้บูรณะใหม่หมดทั้ง องค์และพระราชทานนามใหม่ว่า “พระพุทธไตรรัตนนายก”
วัดแห่งนี้มีชื่อเรียกหลายชื่อ อาทิ วัดพนัญเชิง, วัดพระแนงเชิง, วัด พระเจ้าพแนงเชิง ซึ่งคำว่า “พแนงเชิง” มีความหมายว่า นั่งขัดสมาธิ “วัดพนัญเชิง” จึงหมายถึง วัดแห่งพระพุทธรูปนั่งปางมารวิชัย ก็คือ พระพุทธไตรรัตนนายก นั่นเอง
ตำนานของการสร้างหลวงพ่อโตวัดพนัญเชิง กล่าวว่า พระเจ้า สายน้ำผึ้ง ทรงสร้างขึ้น ณ บริเวณที่พระราชทานเพลิงศพพระนางสร้อย ดอกหมาก และตามพงศาวดารกล่าวว่า พระพุทธรูปองค์นี้สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 1867 ก่อนที่สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 (พระเจ้าอู่ทอง) จะสร้างกรุงศรี อยุธยาเป็นราชธานี 26 ปี ครั้นสมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานีแล้ว พระมหา กษัตริย์แห่งกรุงศรีอยุธยาได้บูรณะซ่อมแซมให้อยู่ในสภาพดีมาโดยตลอด มี เรื่องเล่าว่า เมื่อคราวจะเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 2 ได้ปรากฏว่ามีน้ำพระเนตร ไหลออกมาจากพระเนตรทั้งสองข้างขององค์หลวงพ่อโต ซึ่งเป็นที่น่าอัศจรรย์
สิ่งศักดิ์สิทธิ์สำคัญอีกแห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่ริมท่าน้ำวัดพนัญเชิงฯ แห่งนี้คือ “ศาลเจ้าแม่สร้อยดอกหมาก” ซึ่งมีความเป็นมาเกี่ยวกับความรัก ชาวจีนเรียก กันว่า “ศาลเจ้าแม่อาเนี้ย”
ประวัติของศาลเจ้าแม่สร้อยดอกหมากนี้มีความเป็นมายาวนานที่ ถ่ายทอดกันในหมู่คนกรุงเก่ามาจากรุ่นสู่รุ่น ซึ่งมีเนื้อหาว่า พระเจ้ากรุงจีนได้ พระราชทานพระราชธิดาที่มีชื่อว่า พระนางสร้อยดอกหมาก ให้อภิเษกสมรส กับพระเจ้าสายน้ำผึ้ง กษัตริย์แห่งกรุงอโยธยา โดยจัดกระบวนเรือสำเภาส่ง เสด็จพระนางสร้อยดอกหมากมาสู่กรุงอโยธยาทางชลมารค เมื่อขบวนเรือมา ถึงพระนางทรงเห็นแต่เสนาอำมาตย์มารอรับ แต่กลับไม่เห็นเจ้าชายสายน้ำผึ้ง ซึ่งกำลังเตรียมการอยู่ภายใน จึงน้อยพระทัยที่ไม่ได้รับการต้อนรับอย่างสม พระเกียรติ และไม่ยอมเสด็จลงจากเรือ ครั้งเมื่อพระเจ้าสายน้ำผึ้งเสด็จลงเรือ มาเชิญพระนางด้วยตนเอง พระนางจึงตัดพ้อต่อว่า และพระเจ้าสายน้ำผึ้งจึงได้ ทรงสัพยอกไปว่า “เมื่อไม่อยากขึ้นก็จงอยู่ที่นี่เถิด” พระนางได้ฟังดังนั้นก็น้อยพระทัยมาก จึงกลั้นลมหายใจ จนสิ้นพระชนม์ลงบนเรือลำนั้นเอง พระเจ้า สายน้ำผึ้งโทมนัสยิ่ง ทรงให้ปลงพระศพของพระนางและตั้งศาลขึ้นเพื่อเป็น อนุสรณ์แห่งความรักและความอาลัยต่อนาง ศาลเจ้าแม่สร้อยดอกหมากได้ กลายเป็นที่เคารพรำลึกถึงพระนาง และเป็นที่พึ่งทางใจของผู้คนสืบมา
มีผู้สันนิษฐานกันว่า อาจเป็นที่มาของชื่อวัดพนัญเชิงอีกชื่อหนึ่งที่มา จากคำว่า “พระนางเอาเชิง” หรือ “พระนางทำเชิง”
เชื่อกันว่าเจ้าแม่สร้อยดอกหมากจะดลบันดาลให้ผู้ที่มากราบไหว้ขอ พรมีแต่ความสุข ความสำเร็จ โดยเฉพาะหากมาขอพรในเรื่องของความรักและ คู่ครอง ถ้ามีใจแน่วแน่มั่นคงก็มักสมหวังดังใจปรารถนา หรือคนที่อยากมีบุตรก็ ให้มาขอพรจากเจ้าแม่ เมื่อสมหวังดังที่ขอแล้วมักให้นำผ้าแพร ไข่มุก เรือสำเภา จำลอง หรือนำสิงโตมาเชิดเพื่อถวายเจ้าแม่
และในวันสงกรานต์ของทุกๆ ปี ที่วัดแห่งนี้จะมีพิธีเวียนเทียนรอบองค์ หลวงพ่อโต ซึ่งสืบทอดมานานนับร้อยปี และจะมีเฉพาะที่วัดพนัญเชิงฯ เท่านั้น
การเวียนเทียนรอบองค์หลวงพ่อโต ให้ใช้เทียนทั้งหมดจำนวน 12 แว่น เทียนแต่ละแว่นจะสื่อความหมายตามราศีเกิด โดยจะเวียนรอบองค์หลวง พ่อโตจำนวน 3 รอบ เมื่อประกอบพิธีเวียนเทียนเสร็จแล้วจะร่วมกันห่มผ้า หลวงพ่อโต บารมีหลวงพ่อโตจะช่วยปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายออกไป นำพาความเป็น สิริมงคลเข้ามาในชีวิต
สถานที่: วัดพนัญเชิงวรวิหาร หมู่ 2 ตำบลคลองสวนพลู อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
เวลาเปิด-ปิด: 7:00 – 18:00 น. เปิดทุกวัน
พิกัด: https://goo.gl/maps/JKfe4yMcStc7A6qj6
ขอขอบคุณข้อมูลอ้างอิงและรูปภาพประกอบบางส่วนจากหนังสือและ Internet
เรื่องราวที่นำเสนอเป็นความเชื่อส่วนบุคคลโปรดใช้วิจารณญาณ
🔻🔻ติดตามเรา🔻🔻
– Youtube: https://tiny.cc/mongkond
– Facebook: https://facebook.com/mongkondTH/
– Twitter: https://twitter.com/MongkondTH
– Website: https://mongkond.com