เรื่องผี เรื่องเล่าสยองขวัญ – กระทรวงเวทมนต์ ในไทย มีด้วยหรอ ?

image_pdfดาวน์โหลดไฟล์ PDF

Last Updated on 25 November 2021




Mongkond เรื่องผี เรื่องเล่าสยองขวัญ EP20 - กระทรวงเวทมนต์ ศาลกระทรวงแพทยา

เรื่องราวที่นำเสนอเป็นความเชื่อส่วนบุคคลโปรดใช้วิจารณญาณ

เรื่องผี เรื่องเล่าสยองขวัญ – กระทรวงเวทมนต์ ในไทย มีด้วยหรอ ?

กระทรวงเวทมนต์ พวกเราคงเคยได้ยินมาจากในหนังแฮรี่พอตเตอร์ แต่แท้ที่จริงแล้ว ในประเทศไทยของเรา ก็เคยมีกระทรวงเวทมนต์เหมือนกันนะ

เรื่องไสยศาสตร์ มนต์ดำ นั้น อยู่คู่กับคนไทยมาช้านาน ตั้งแต่โบราณกาล จนถึงปัจจุบันก็ยังมีความเชื่อพวกนี้หลงเหลืออยู่ แล้วกระทรวงเวทมนต์นี้มันคืออะไรกันล่ะ ในอดีต ตั้งแต่สมัยอยุธยา จนถึงรัตนโกสินทร์ตอนต้น ประเทศไทยก็เคยมีกระทรวงเวทมนต์กับเค้าด้วย เรียกว่า กระทรวงแพทยาคม หรือ ศาลกระทรวงแพทยา คำว่า แพทยาคม นั้น มาจากคำว่า แพทย และ อาคม โดยคำว่า แพทย มีความหมายว่า หมอรักษาโรค และคำว่า อาคม มีความหมายว่า เวทย์มนต์ ดังนั้น คำว่า แพทยาคม จึงมีความหมายว่า หมอรักษาโรคเกี่ยวกับเวทมนต์ นั่นเอง

กระทรวงแพทยาคมนี้ มีข้อมูลไม่แน่ชัด ว่าเกิดขึ้นในยุคสมัยใด แต่มีการกล่าวถึงในหลายๆ รัชสมัย เช่น สมัยพระนารายณ์ พระเจ้าอู่ทอง พระเจ้าทรงธรรม ซึ่งในสมัยพระเจ้าทรงธรรมนี้ ได้มีปรากฏในบันทึกว่า กระทรวงแพทยาคม มีไว้เพื่อชำระคดีผู้กระทำผิดเกี่ยวกับคุณไสย เสน่ห์ยาแฝดต่างๆ รวมทั้งกระสือ กระหัง อีกด้วย



ใน กระทรวงแพทยาคม หรือศาลกระทรวงแพทยา นี้ จะผู้เชี่ยวชาญทางวิทยาคม ซึ่งก็คือผู้ที่มีความรู้เกี่ยวกับเวทมนต์อาคมต่างๆ เป็นตุลาการ มีหน้าที่สอบสวนพิจารณาโทษผู้กระทำผิด เกี่ยวกับการกระทำทางไสยศาสตร์ ในเรื่องคุณไสยโดยเฉพาะ โดยท่านผู้นี้ จะมีอำนาจในการพิจารณาความ กล่าวหาว่า ใครเป็นกระสือ กระหัง ใครทำเวทมนต์อาคม ใส่ว่านยา ทำเสน่ห์ยาแฝด ยาเมา รีดลูก รวมทั้งเป็นผู้พิจารณาคดีที่พราหมณ์โยคี เป็นโจทย์จำเลย หาความกัน เป็นต้น ถ้ามีเรื่องเกิดขึ้นในหัวเมือง ขุนหมื่นกรมแพทยาหัวเมือง ก็จะเป็นผู้พิจารณาคดีนี้

ศาลกระทรวงแพทยา นี้ ได้มีกฎหมายบัญญัติลงโทษผู้กระทำความผิดในการใช้คุณไสยต่างๆ และการใช้วิทยาคมทำร้ายผู้อื่น จะต้องขึ้นศาลนี้ทั้งหมด และมีกฎหมายที่อ้างอิงมูลความผิดที่จะต้องขึ้นศาลนี้ด้วย

แต่ว่า ข้อมูลของกระทรวงนี้ มีไม่เยอะพอที่จะศึกษาให้ละเอียดได้ พี่ราตรีมีตัวอย่างกฎหมายบางข้อ ที่เกี่ยวข้องมาให้ฟังกัน เช่น

139 มาตราหนึ่ง ด่า/ว่า/ตู่ ท่านว่ารู้ฉมบ กฤติยารู้ว่านยาแลวิทยาคุณกระทำให้ท่านตาย ถ้าเป็นสัจจริงดั่งนั้น ให้ถามครูมันด้วย ฆ่าตัว/ครู มันเสียให้ตกตามกัน ถ้ามิเปนสัจแลมันเสกสัน ด่า/ว่า/ตู่ แก่ท่าน ให้ลงโทษทวนมันฯ

140 มาตราหนึ่ง ผู้ใด ด่า/ส่อ ท่านว่าเปนกระสือ กระหาง จะกละ พิจารณามิเป็นสัจหาก ด่า/ส่อ ท่านดั่งนั้น ให้ลงโทษโดยโทษานุโทษแล้วให้ไหมเท่าค่าตัวผู้ ด่า/ส่อ นั้นเปน สีนไหม/พิไนย ถ้าเปนสัจว่าเปนกระสือกระหางจะกละจริงไซ้ ให้เอามันผู้เปนกระสือกระหางจะกละมาขวิดษารภาเสียฯ

148 มาตราหนึ่ง ผู้ใดจะให้ผู้อื่นพศวงงงงวยในตนแลปรกอบกฤตยาคุณเปนยาแฝดด้วยสิ่งใด ๆ ให้ท่านกินก็ดี ใส่ให้ท่านด้วยประการใด ๆ ก็ดี แลปั้นรูปฝังรูปด้วยวิทยาคุณประการใด ๆ ก็ดีพิจารณาเปนสัจ ให้ทวน 60 ที เอาขึ้นขาหย่างประจารและทะเวนบก 3/เรือ 3 วันแล้วฆ่ามันเสีย ฯ

โอ้โห การทำเสน่ห์ยาแฝดในสมัยก่อนนี่โทษหนักจริงๆ โดยทั้งโบย ทั้งประจาน แล้วยังโดนฆ่าอีกนะเนี่ย



กระทรวงแพทยาคม หรือศาลกระทรวงแพทยา นี้ มีมาตั้งแต่สมัยอยุธยา จนกระทั่งถูกลดบทบาทและอำนาจลง ในสมัยรัชการที่ 3 จากศาลกระทรวงแพทยา เป็น ศาลกรมแพทยา และในสมัยรัชการที่ 5 เกิดการปฏิรูปหลายๆ อย่างในแผ่นดิน หนึ่งในนั้นก็คือ การปฏิรูปศาล ท้ายที่สุด จึงทำให้ ศาลกรมแพทยา ได้ถูกยุบลง เมื่อวันที่ 25 มีนาคม พุทธศักราช 2434 เพราะถูกมองว่า เป็นสิ่งที่ล้าหลัง ไม่ทันสมัย ประกอบกับเวลานั้น รัชการที่ 5 มีนโยบายพัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้า ทัดเทียมมหาอำนาจ จึงต้องยกเลิกกระทรวงนี้ไปในที่สุด และไม่มีวี่แววที่จะถูกนำกลับมาอีกต่อไป

ขอขอบคุณ หนังสือเรื่อง “ThaiLand Only เรื่องแบบนี้ มีแต่ไทย ๆ” หน้าที่ ๗๙ พิมพ์ครั้งที่ ๑
ขอขอบคุณ Twitter , Sanook.com , tnews.com , Facebook , Wikipedia , siammongkon.com

📌หมายเหตุ📌
– ทางเราอาจมีการเปลี่ยนแปลงบางคำพูดหรือสำนวน เพื่อให้ง่ายต่อการเล่าเรื่องราว และฟังลื่นหูนะคะ ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ 🙏



🔻🔻ติดตามเรา🔻🔻
– Youtube: https://tiny.cc/mongkond
– Facebook: https://facebook.com/mongkondTH/
– Twitter: https://twitter.com/MongkondTH
– Website: https://mongkond.com

image_pdfดาวน์โหลดไฟล์ PDF

Leave a Reply