เรื่องผี เรื่องเล่าสยองขวัญ – ตู้เขย่าขวัญ

image_pdfดาวน์โหลดไฟล์ PDF

Last Updated on 26 November 2021




Mongkond เรื่องผี เรื่องเล่าสยองขวัญ EP6 ตู้เขย่าขวัญ

เรื่องราวที่นำเสนอเป็นความเชื่อส่วนบุคคลโปรดใช้วิจารณญาณ

เรื่องผี เรื่องเล่าสยองขวัญ – ตู้เขย่าขวัญ

เรื่องนี้เกิดขึ้นที่ดอยสะเก็ด อ้นเป็นเพื่อนสนิทของเรา เรานัดกันไปเที่ยวเชียงใหม่ หวังว่าจะไดโต้ลมหนาวสุดๆ ของเดือนธันวาคม เรื่องที่พักไม่ต้องห่วงเลย เพราะญาติของอ้นเพิ่งแต่งงานกับพ่อม่ายเมื่อปีก่อน เค้าเป็นเศรษฐีเจ้าของไร่กาแฟ มาปีนี้เค้าเลยชวนคนคุ้นเคยกันไปเคานต์ดาวน์ที่นั่น เรากับอ้นต่างมีธุรกิจส่วนตัว ก็เลยมีอิสระเต็มที่ และยังโสดกันเสียด้วย ทั้งๆ ที่เราก็อายุสามสิบกว่าๆ กันแล้ว

วันที่ 28 ธันวาคม เรานั่งเครื่องบินไปเชียงใหม่กัน พี่อ้อย ญาติของอ้น เอารถมารับถึงสนามบิน เธอแก่กว่าเราแค่ 2-3 ปี แต่เธอดูเป็นสาวสวย มีสง่าราศี แต่งตัวเก่งและคุยสนุก มีเสน่ห์มาก สามีของพี่อ้อยเป็นม่าย ภรรยาเสียชีวิตไปร่วมสิบปี ลูกๆ ของเค้าก็โตๆ กันหมดแล้ว และไปอยู่เมืองนอกกันหมด คุณวิชัยสามีของพี่อ้อยเค้าก็เลยเหงา เรารู้สึกว่าพี่อ้อยโชคดีมากๆ เลย



ไร่กาแฟของคุณวิชัยอยู่ที่ดอยสะเก็ด มีเนื้อที่กว้างขวางสุดลูกหูลูกตา ทิวทัศน์สวยงามมาก มีภูเค้าและสวนดอกไม้ด้วย ในไร่มีการปลูกกระท่อมสไตล์ยุโรปไว้ 5-6 หลัง เพื่อเอาไว้ให้เพื่อนฝูงและญาติๆ มาพัก

ปีนี้ก็มีคนก็มากันร่วมสามสิบคนแน่ะ ซึ่งเป็นญาติของคุณวิชัยทั้งนั้น มีแต่เรากับอ้นที่เป็นเพื่อนและญาติฝ่ายพี่อ้อย แต่พวกเราก็เข้ากับทุกคนได้ดี พวกเค้ามีครอบครัวกันหมดแล้ว แต่ละคนก็พาลูกพาหลานมา ทำให้ครึกครื้น

พี่อ้อยให้เราสองคนพักอยู่ที่กระท่อมหลังนึง ขนาดสามห้องนอน อยู่ไกลออกมาจากบ้านใหญ่ น่าแปลกใจว่า ทำไมครอบครัวของคุณนุชกับคุณวิเชียร ซึ่งเป็นพี่ชายของคุณวิชัยสามีของพี่อ้อย พาลูกหลานกับพี่เลี้ยงมาหลายคน กลับได้นอนกระท่อมที่มีแค่สองห้องนอน เราก็รู้สึกเกรงใจ พยายามพูดให้เค้ามานอนทางนี้ แต่พวกเค้าทำหน้าแปลกๆ มองตากันแล้วบอกว่าไม่เป็นไร นอนหลังนั้นดีกว่า เพราะใกล้กับบ้านใหญ่ดีด้วย เค้าว่าเรากับอ้นจะได้อยู่กันตามสบาย

บรรยากาศที่นี่ ตอนกลางวันก็ไม่เท่าไหร่หรอก แต่ตอนกลางคืน เมื่อตะวันลับขอบฟ้าไปแล้ว กระท่อมนี้มันดูยังไงๆ อยู่นะ ที่จริงมันสวยมาก ห้องกลางมีเตาผิงด้วย เหมือนในหนังเลยละ วิวก็สวยมากๆ พอเปิดหน้าต่างไป ก็จะเห็นเนินเขาลาดต่ำสู่ลำธาร มีดอกไม้ป่าบานสะพรั่ง

เรากับอ้นเลือกนอนห้องนี้ เสียอย่างเดียวเวลาอาบน้ำ หรืออยากเข้าห้องน้ำต้องเดินออกมาจากห้องนอน ลองคิดดูสิ อยู่แค่สองคนในกระท่อมขนาดใหญ่ มันโหวงเหวงน่าดู ทั้งเงียบ มืด และรู้สึกตลอดเวลา ว่ามีใครมองเราอยู่!



คืนแรก หลังจากไปร่วมรับประทานอาหารมื้อค่ำที่บ้านใหญ่แล้ว เรากับอ้นก็เดินมาดูดาวกัน นับดาวก่อนเคานต์ดาวน์ปีใหม่… ถ้าเรามีแฟนก็คงโรแมนติคน่าดู

ต้องยอมรับอย่างนึกว่า พวกเราเป็นคนกลัวผีทั้งคู่ อ้นบ่นเจ็บใจตัวเอง รู้งี้ชวนเหมียวมาด้วยกันอีกคนก็ดี เหมียวมีสามีกับลูกเล็กๆ คนนึง ถ้ามาด้วยกัน กระท่อมก็คงจะไม่วิเวกวังเวงแบบนี้ ที่พวกเราไม่ได้ชวนก็เพราะเกรงใจพี่อ้อย แต่ก็ไม่นึกว่าจะมีห้องพักเหลือเฟือขนาดนี้

อ้นไปอาบน้ำก่อนเรา น้ำจากเครื่องทำน้ำอุ่นทำให้เรารู้สึกสบาย หายหนาวไปเยอะ… แต่ก็ยังไม่หายกลัวผี! เวลาประมาณสี่ทุ่ม พวกเราก็เข้านอน เปิดไฟที่ห้องกลางไว้ เผื่อเวลาที่จะเข้าห้องน้ำจะได้ไม่กลัว ถึงอย่างนั้น ก็ยังตกลงกันว่า ถ้าใครอยากเข้าห้องน้ำ จะต้องปลุกอีกคนไปเป็นเพื่อนด้วย



คืนนี้อากาศหนาวมาก จนเราต้องปิดหน้าต่าง เรานอนบนเตียงขนาดคิงไซซ์ ห่มผ้าห่มผืนหนา ปลายเตียงมีตู้เสื้อผ้าที่ยาวตลอดผนัง แบ่งเป็นสามตอน เราเปิดใช้เก็บเสื้อผ้าได้แค่สองตอน ส่วนที่ตอนที่สามถูกปิดล็อกไว้ แต่ไม่เป็นไร แค่นี้ก็เหลือแหล่แล้ว

พวกเราคุยกันถึงเรื่องสมัยเรียนหนังสืออยู่ที่สาธิตด้วยกันจนหลับไป ตอนเคลิ้มๆ เราเหมือนเห็นใครคนนึงเดินอยู่ปลายเตียง ตอนแรกเราก็คิดว่าอ้นคงลุกไปเข้าห้องน้ำ แต่เอ๊ะ… .ทำไมผมยาวประบ่า ส่วนอ้นนั้นซอยผมสั้นทันสมัย เราคิดในใจ ไม่ใช่อ้นแล้วใครล่ะ?

เราอยากขยับตัวแต่ทำไม่ได้ ความรู้สึกเหมือนผีอำ! ผู้หญิงคนนั้นมีผมปรกหน้า เธอหันมาดูเรากับอ้นอย่างโกรธๆ พูดอะไรบางอย่างแต่ไม่มีเสียง คล้ายหนังเงียบเลย แน่แล้ว! เราใจหายวาบ กลัวแทบสิ้นชีวิต… เธอเป็นผีแน่ๆ !

เราเห็นเธอจับข้อเท้าอ้นแล้วลากไป อ้นส่งเสียงอึกอักๆ ขณะที่ถูกดึงไปที่ปลายเตียงอย่างช้าๆ แล้วหล่นพลั่กลงไป เธอยังคงลากอ้นต่อจนถึงหน้าตู้ที่ปิดล็อกนั่น แล้วตัวเธอก็หายเข้าไปในตู้ เท่านั้นเอง อาการผีอำก็หายวับไป! เราขยับได้ รีบเอื้อมมือไปเปิดไฟหัวเตียง สิ่งที่เห็นเป็นของจริงไม่ใช่ฝัน อ้นร้องครางอย่างเจ็บปวดเพราะตกเตียง เธอกลัวมากพอๆ กับเรา เราเปิดไฟสว่างโร่ทั้งบ้าน บอกกันและกันว่าอยู่ไม่ได้แล้ว!



อ้นโทร.เข้ามือถือพี่อ้อย เพิ่งห้าทุ่ม พี่เค้าคงยังไม่นอนหรอกน่า ไม่ช้าพี่อ้อยก็เดินมากับคนงานผู้หญิงสองคน ช่วยกันขนสัมภาระของเราไปอยู่ที่บ้านใหญ่ คิดแล้วก็น่าน้อยใจ ให้เราอยู่บ้านใหญ่ซะแต่แรกก็คงไม่ต้องโดนผีหลอก! พวกเราได้นอนห้องเล็กๆ ใต้บันได พี่อ้อยบอกว่า เดิมทีเป็นห้องคนใช้เลยเกรงใจ อยากให้เรานอนสบายๆ ที่กระท่อมสวยๆ เราคิดในใจ กระท่อมสวยแค่ไหนแต่มีผีดุก็ไม่ไหวหรอก

พี่อ้อยเล่าให้ฟัง ปรากฏว่าผีผู้หญิงที่พวกเราเห็นนั้น เป็นเมียเก่าที่ตายไปแล้วของคุณวิชัยนั่นเอง พี่อ้อยเอาโกศกระดูกของเธอจากบ้านใหญ่ ไปไว้กระท่อมหลังไกลที่สุด เอาไปซุกไว้ในตู้ แลดูไม่ให้เกียรติเธอเลย! ถ้าเป็นเราก็คงจะโกรธ น่าจะออกมาอาละวาดเหมือนกัน

คนงานพี่อ้อยแอบเล่าว่า ใครมานอนก็เจอดีทุกราย พี่อ้อยเอง เวลาเล่าให้เราฟังก็ทำเหมือนไม่ได้ให้ความสำคัญ ประมาณว่า หลอกได้ก็หลอกไป! เรากับอ้นพูดขอให้เธอเอาโกศกระดูกไปไว้ที่วัดก็ยังดี แต่พี่อ้อยทำเฉยๆ พวกเราก็ไม่รู้จะทำยังไง แต่ก็ช่างเถอะ มันเป็นเรื่องของเค้า ส่วนพวกเราหรอ กลับซิ จะอยู่ทำไม กลัวผีจะตาย พวกเรากลับบ้านตอนบ่ายของวันที่ 29 นั่นเอง กลับมาเคานต์ดาวน์ที่บ้านเราดีกว่า อบอุ่นปลอดภัยมั่นใจกว่าเยอะ



ขอขอบคุณ คลังสยอง

📌หมายเหตุ📌
– ทางเราอาจมีการเปลี่ยนแปลงบางคำพูดหรือสำนวน เพื่อให้ง่ายต่อการเล่าเรื่องราว และฟังลื่นหูนะคะ ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ 🙏



🔻🔻ติดตามเรา🔻🔻
– Youtube: https://tiny.cc/mongkond
– Facebook: https://facebook.com/mongkondTH/
– Twitter: https://twitter.com/MongkondTH
– Website: https://mongkond.com

image_pdfดาวน์โหลดไฟล์ PDF

Leave a Reply