Last Updated on 25 November 2021
เรื่องราวที่นำเสนอเป็นความเชื่อส่วนบุคคลโปรดใช้วิจารณญาณ
เรื่องผี เรื่องเล่าสยองขวัญ – รวมวิธีเห็นผี แบบโบราณ ฉบับจัดหนัก
วิญญาณอยู่รอบตัวเราเสมอ คนเห็นไม่อยากเจอ แต่คนไม่เคยเจอ อยากจะเห็น วันนี้ พี่ราตรีจะมาเล่าให้ฟัง เกี่ยวกับ วิธีเห็นผี แบบไทยโบราณ ขอเชิญผู้กล้าอยากลองของ ร่วมพิธีสื่อวิญญาณ ท้าความหลอน หากทำตามเงื่อนไขได้สำเร็จ อาจได้กับวิญญาณก็เป็นได้
การใช้ดินจากสุสาน
วิธีแรกก็คือ การใช้ดินจากสุสาน หรือเถ้ากระดูกของคนตาย มาทาที่เปลือกตา
ในตำราโบราณกล่าวว่า ถ้าอยากเห็นวิญญาณกับตาตัวเอง ต้องไปหาดินที่ฝังร่างพวกเค้าให้ได้ก่อน คนโบราณเชื่อกันว่า เถ้ากระดูกและดินฝังศพ มักจะซึมซับเอาวิญญาณของคนตายเอาไว้ ยิ่งดินที่อยู่ลึกมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งซึมซับวิญญาณมากเท่านั้น เมื่อได้ดินมาแล้ว ให้นำมาป้ายบริเวณเปลือกตา แล้วตั้งจิตอธิษฐาน เชื่อว่าจะทำให้มองเห็น ว่าผีกำลังทำอะไรอยู่ และถ้าหากสถานที่นั้นมีภูตผีชุมนุมอยู่มาก เค้าอาจมาชวนคุณไปอยู่ด้วยก็ได้
การเคาะเรียกผีตายโหงมากินข้าว
วิธีต่อไปคือ การเคาะเรียกผีตายโหงมากินข้าว ผีตายโหง หรือคนที่ตายแบบฉับพลันจากอุบัติเหตุ จะยังไม่สามารถรับสภาพความตายนั้นได้ จึงทำให้วิญญาณเหล่านั้นยังคงเชื่อว่า ตัวเองยังมีชีวิตอยู่ และจะทำสิ่งต่างๆ เหมือนคนปกติ ให้ลองวางอาหารไว้ในที่ที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยๆ หรือทางสามแพร่ง ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นทางผีผ่าน หลังจากนำอาหารไปวางแล้ว ให้เคาะช้อน ส้อม หรือตะเกียบไปเรื่อยๆ เสียงเคาะจะทำให้ผีคิดว่าถึงเวลามาทานอาหาร ให้ลองสังเกตอาหารดูดีๆ อาหารจะค่อยๆ หายไปอย่างปริศนา
การกินข้าวตรงที่ที่มีคนตาย
ในเรื่องเกี่ยวกับ ผีตายโหง นี้ ยังมีอีกวิธีที่มีคนพูดถึงกันมาก นั่นก็คือ การกินข้าวตรงที่ที่มีคนตาย วิธีการนั้นง่ายนิดเดียว คือแค่ไปนั่งกินข้าว ในตำแหน่งเดียวกับจุดที่เพิ่งจะมีคนตายไม่เกิน 3 วัน รับรองได้ว่า คุณอาจจะมีเพื่อนมานั่งร่วมรับประทานอาหารด้วยกันแน่ ถ้าให้ดี พี่ราตรีแนะนำให้ไปทำตอนกลางคืน ดึกๆ จะเห็นผลที่สุด
การใช้น้ำตาสุนัขสีดำ มาป้ายเปลือกตา
วิธีต่อไปคือ การใช้น้ำตาสุนัขสีดำ มาป้ายเปลือกตา
ไม่เพียงแต่แมวดำเท่านั้น ที่คนไทยเชื่อกันว่าจะนำพามาซึ่งสิ่งไม่ดี แต่สุนัขสีดำ หรือหมาดำ ก็เป็นสัญลักษ์ของโชคร้ายเหมือนกัน และสุนัขยังเป็นสัตว์ที่เชื่อว่ามีความสามารถพิเศษในการมองเห็นสิ่งลี้ลับได้ ให้ลองใช้น้ำตาของสุนัขสีดำมาทาเปลือกตา จากนั้นหลับตาลงแล้วตั้งจิตอธิษฐาน เมื่อลืมตาขึ้น จะทำให้เราสามารถมองเห็นวิญญาณได้
บางความเชื่อมีการบอกว่า ให้ใช้เลือดหมาดำมาทาที่เปลือกตา หรือให้อาบเลือดหมาดำกันเลยทีเดียว แต่พี่ราตรีไม่เห็นด้วยเป็นอย่างมาก เพราะเนื่องจากจะเป็นการทารุณกรรมสัตว์แล้ว ยังไม่ถูกสุขลักษณะอนามัยอีกด้วย เพื่อนๆ อย่าไปทำนะคะ อันนี้เป็นแค่เรื่องที่ถูกเล่าต่อกันมาเท่านั้น
การใส่เสื้อผ้าคนตาย
และอีกนึงวิธีที่นิยมกันมากก็คือ การใส่เสื้อผ้าคนตาย
ในช่วงเย็นเวลาโพล้เพล้ ให้เดินทางไปที่วัด พร้อมกับนำเสื้อผ้าของคนตายไปด้วย เมื่อถึงวัด ให้นำชุดเหล่านั้นมาสวมใส่ จากนั้น ให้กลั้นหายใจประมาณ 10 วินาที พร้อมตั้งจิตอธิษฐานถึงสิ่งที่อยากเจอ แล้วค่อยๆ ลืมตาขึ้น ว่ากันว่าภาพที่จะเห็นอยู่เบื้องหน้า คือวิญญาณเจ้าของชุด ที่จะมาทักทายคุณ ด้วยสัมผัสเย็นวาบชวนขนลุก แต่ถ้าอยากสัมผัสแบบชัดเจนจัดเต็มละก็ ให้ลองเลียนแบบวินาทีที่เจ้าของเสื้อผ้าคนนั้นตายด้วย รับรองว่าแม้คุณอาจจะมองไม่เห็นอะไร แต่คุณจะสัมผัสได้ถึงความรู้สึกของวิญญาณนั้น ในช่วงเวลาก่อนตายได้เป็นอย่างดี
นอนในโลงศพของจริง
ถ้าอยากลองให้ถึงใจมากกว่านี้ พี่ราตรี ขอแนะนำวิธี นอนในโลงศพของจริง ให้คุณได้ลองสัมผัสชีวิตในโลกหน้าอย่างใกล้ชิด หากต้องการความเหี้ยนสุดๆ ให้ไปทดลองทำที่บ้านร้าง หรือป่าช้า ซึ่งเป็นที่ชุมนุมของผี ในตอนกลางคืน ให้ค่อยๆ หย่อนตัวลงไปนอนในโลกศพ ราวกับลมหายใจสุดท้ายได้ตายจากไป จากนั้นอธิษฐานพนมมือ อมเหรียญบาทไว้ที่ปาก ไม่นานนักจะมีวิญญาณมายืนอยู่ใกล้โลงศพ ยื่นหน้ามาหา อาสาพาทัวร์ยมโลกเลยก็ได้ แต่อย่าตื่นตกใจกลัว จนเหรียญบาทร่วงลงคอซะล่ะ ไม่งั้น อาจจะได้ไปสวรรค์ของจริง
การเล่นผีถ้วยแก้ว
นอกจากนี้ ยังมีวิธีการสื่อสารกับวิญญาณที่นิยมกันมาก ก็คือ การเล่นผีถ้วยแก้ว
วิธีนี้เป็นวิธีคุยกับวิญญาณสุดเฮี้ยน และยอดฮิตเลยทีเดียว คนที่จะเล่นผีถ้วยแก้ว จำเป็นต้องมีจิตใจที่แข็งแกร่งอยู่พอสมควร ผู้เล่นจะอัญเชิญดวงวิญญาณของผู้ตายในที่แห่งนั้นมาสิงสถิตอยู่ในแก้ว และสอบถามเรื่องราวต่างๆ จากดวงวิญญาณนั้น อุปกรณ์ในการเล่นก็จะมี แก้ว ธูป 1 ดอก อุปกรณ์ในการจุดไฟ และกระดานที่เขียนตัวอักษร ทั้งพยัญชนะ สระในภาษาไทยอย่างครบถ้วน ตัวเลข ช่องสำหรับตอบคำถามว่า “ใช่หรือไม่ใช่” รวมถึงช่องสำหรับออก
วิธีการเล่นคือ ให้จุดธูปหนึ่งดอกเพื่อเชิญวิญญาณ แล้วให้นำควันธูปเข้าไปไว้ในแก้วที่คว่ำรออยู่บนกระดาษ จากนั้นให้ทุกคนเอานิ้ววางไว้บนแก้ว และเริ่มต้นการสอบถามเรื่องราวๆ ต่างๆ โดยห้ามไม่ให้ใครคนใดคนึงปล่อยนิ้วออกจากแก้วเด็ดขาด ว่ากันว่า วิญญาณที่เชิญมานั้น จะมานั่งอยู่ข้างๆ คนใดคนนึง แล้วคอยเอานิ้วดันแก้วเพื่อตอบคำถาม เมื่อเล่นเสร็จ ถ้าอยากจะเห็นผีจริงๆ จังๆ ละก็ ตอนจะเชิญวิญญาณออก ให้หงายแก้วขึ้น เชื่อกันว่า คุณจะมองเห็นวิญญาณล่องลอยออกมาเล่นกับคุณใกล้ๆ เลยล่ะ
การก้มมองลอดหว่างขา
และวิธีเห็นผียอดฮิตอีกวิธีนึงก็คือ การก้มมองลอดหว่างขา
เราทุกคนเกิดมาจากหว่างขาของแม่ ดังนั้นจึงเชื่อกันว่าบริเวณหว่างขานี้ เป็นจุดที่สามารถติดต่อเชือมกัน ระหว่างโลกมนุษย์กับโลกของวิญญาณได้ วิธีนี้ แนะนำให้ทำตอนกลางคืนเช่นเดียวกัน ให้เก็บใบไม้ที่ร่วงลงมาจากต้นไม้ และร่วงลงมาไม่ห่างจากลำต้นมากนัก ยิ่งอยู่ใกล้รากย่งดี แล้วให้ไปยืนในที่โล่ง และต้องมองเห็นพระจันทร์ แล้วหันหน้าไปทางทิศตะวันออก เพื่อที่ว่า เวลาก้มหน้าลงไปที่หว่างขา หน้าจะหันไปทางทิศตะวันตก ซึ่งเป็นทิศของคนตาย หลังจากจัดท่ายืนเสร็จเรียบร้อยแล้ว นำใบไม้ที่เก็บมา เอาไว้ในฝ่ามือ จากนั้นให้หมุนตัวตามเข็มนาฬิกา คือหมุนไปทางซ้ายช้าๆ แล้วเมื่อมาหยุดที่เดิมทางทิศตะวันออก ให้ท่องคำว่า พุทโธทายะ ให้หมุนตัวและท่องคาถาทั้งหมด 3 รอบ จากนั้นให้หลับตา นึกถึงใบไม้ที่อยู่ในมือ ให้คิดว่า ใบไม้นี้ คือพลังงานอย่างนึงที่จะเรียกวิญญาณมาได้ และใบไม้นี้ ได้ตายไปแล้ว หลุดร่วมจากต้นไม้ เพราะฉะนั้นเราจะสามารถติดต่อกับวิญญาณได้ เหมือนที่ติดต่อกับไม้ใบที่ตายแล้วนี้ได้ จากนั้นในขณะที่ยังหลับตาอยู่ ให้ค่อยๆ ก้มหน้าลงไปที่หว่างขา ให้ตั้งสติให้ดีๆ เมื่อพร้อมแล้ว ให้ลืมตาขึ้น มองทะลุลอดหว่างขาตัวเอง สิ่งที่คาดไม่ถึงก็จะมาให้เห็นได้ แต่ถ้าหากเห็นอะไรแล้ว ห้ามวิ่งเด็ดขาด ไม่ว่าสิ่งที่เห็นจะอยู่ใกล้หรือไกล ให้ตั้งสติให้ดี เงยหน้าขึ้น รีบทิ้งใบไม้ลงพื้นทันที หมุนตัวทวนเข็มนาฬิกา คือหมุนย้อนกลับไปทางขวา 3 รอบ โดยที่ไม่ต้องท่องคาถาอะไรเลย แลเมื่อกลับถึงบ้าน ให้ไปล้างหน้า โดยการวักน้ำขึ้นมา ท่องว่า “พุทโธ” แล้วเป่าลมลงไปที่น้ำ แล้วจึงค่อยๆ ล้างหน้า ทำแบบนี้ซ้ำให้ครบ 3 ครั้ง
เชื่อกันว่า วิธีนี้น่าจะทำให้ได้เห็นผีแบบจริงจัง เพราะเป็นหนึ่งในวิธีที่ถูกเขียนบันทึกไว้ในตำราไทยโบราณเลยทีเดียว
กวาดพื้นรอบๆ เมรุ
เรื่องลอดหว่างขานี้ ยังมีอีกวิธีการที่มีคนพูดถึงกัน นั่นคือให้ไปกวาดพื้นรอบๆ เมรุ คือในขณะที่กำลังมีการเผาศพที่เมรุ ให้เอาไม้กวาดไปกวาดรอบๆ เมรุทั้งหมด 3 รอบ แล้วให้หักเศษไม้กวาดมา 1 ก้าน จากนั้นให้หาน้ำมะพร้าวที่ใช้ล้างหน้าศพ มาป้ายที่เปลือกตาทั้ง 2 ข้าง นำเศษไม้กวาดมาเหน็บไว้ที่หูข้างซ้าย หันหลังให้เมรุ แล้วค่อยๆ ก้มลงไปมองลอดหว่างขาไปที่เมรุ ว่ากันว่า วิญญาณของคนตาย จะมายืนให้เห็นแน่นอน
การนั่งถัดบันได
และอีกวิธีการนึงที่นิยมทำกันมาก และสามารถทดลองทำได้เองที่บ้านก็คือ การนั่งถัดบันได
วิธีนี้ต้องทำคนเดียว จะยิ่งเห็นผลเมื่อทำเวลากลางคืน โดยให้เดินขึ้นบันไดไป แล้วนั่งลงบนบันไดชั้นบนสุด จากนั้น ค่อยๆ นั่งถัดบันไดลงมาทีละขั้น คือการใช้ก้นลงบันไดนั่นเอง และเมื่อลงมาถึงขั้นสุดท้าย ให้ยังคงนั่งอยู่ที่ขั้นสุดท้ายนั้น แล้วหันหน้ากลับหลัง แหงนหน้ามองกลับขึ้นไปชั้นบนสุดของบันได แล้วจะเจอกับวิญญาณที่ยืนรออยู่
เล่นซ่อนหาตอนกลางคืน
นอกจากนี้ บางคนอาจจะเคยได้ยิน เรื่องราวจากคนเฒ่าคนแก่ ที่เคยเตือน เคยห้ามว่า อย่าเล่นซ่อนหาตอนกลางคืน เดี๋ยวผีจะมาเอาตัวไป
นี่ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีในการเห็นผี เป็นคำเตือนจากผู้ใหญ่ที่เคยได้ยินได้ฟังมาตั้งแต่เด็ก เพราะร่ำลือกันว่า ผีจะทำให้คนที่ซ่อนตัวอยู่ ไม่มีใครเห็น ส่วนคนที่กำลังหาอยู่ ก็จะหาคนที่ซ่อนไม่เจอ และคนที่ซ่อนตัวอยู่นั้น ก็จะมองไม่เห็นสิ่งที่อยู่ข้างหน้าตัวเอง เพราะวิญญาณจะลวงตาไว้ วิธีแก้ก็คือ ต้องให้แมวดำวิ่งผ่าน แต่ถ้าไม่มีแมวดำ คุณก็จะไม่เห็นสิ่งใดๆ อีกตลอดกาลจนตาย เพราะมีความเชื่อว่า ผีต้องการเอาไปอยู่ด้วย
พี่ราตรีไม่อยากแนะนำให้เล่นซ่อนหาแบนี้ เพราะเป็นวิธีที่เสี่ยงอันตรายที่สุดในบรรดาวิธีการเห็นผีอื่นๆ แต่ถ้าอยากลองจริงๆ ก็ควรจะต้องมีเพื่อนมากกว่าหนึ่งคนเพราะจะต้องมีทั้งคนซ่อนและคนหา และต้องเตรียมแมวดำไว้ด้วย ซึงมันก็คงไม่ค่อยให้ความร่วมมือกับเราสักเท่าไหร่ วิธีนี้จึงเป็นวิธีที่อันตราย และมีวิธีการแก้ที่ยุ่งยากอีกด้วย
การกางร่มในอาคารตอนกลางคืน
และยังมีอีกวิธีเห็นผี ที่ได้ถูกบันทึกไว้ในตำราไทยโบราณ แต่ไม่ค่อยได้ยินคนกล่าวถึงสักเท่าไหร่ นั่นก็คือ การกางร่มในอาคารตอนกลางคืน
เป็นวิธีที่ทำตามได้ไม่ยาก แค่เพียงต้องใช้ร่ม สีขาวล้วน หรือ สีดำล้วน ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความโศกเศร้า และการไว้ทุกข์ ในช่วงโพล้เพล้ใกล้ค่ำ ให้เข้าไปในอาคาร ถ้าสถานที่นั้นมีประวัติเรื่องผีด้วยก็ยิ่งดี จากนั้นให้กำหนดจิตภาวนาใหพบเจอสิ่งที่อยากจะเห็น ร่ำลือกันว่า จะมีวิญญาณมาโผล่อยู่ข้างๆ ให้ได้เห็นตัวเป็นๆ ก็เป็นได้
หวีผมหน้ากระจก
นอกจากนี้ ยังมีวิธีเห็นผี ที่สามารถทำตามได้ง่ายๆ ที่บ้าน นั่นก็คือ หวีผมหน้ากระจก
วิธีนี้ ทำได้ง่ายๆ ที่บ้าน หลังเที่ยงคืน อย่าเพิ่งรีบนอน ให้เดินไปปิดไฟทุกดวงให้ห้องมืดสนิท แล้วมานั่งหน้ากระจก จุดเทียน 1 เล่ม จากนั้นให้ใช้หวี หวีผมของตัวเองไปเรื่อยๆ พร้อมกับมองเงาในกระจกไปด้วย อาจจะมีเงาปริศนา ปรากฎขึ้นในกระจก อยู่ข้างหลังคุณ ก็เป็นได้
หันหลังให้กระจกแล้วกลืนน้ำลาย
นอกจากวิธีหวีผมหน้ากระจกแล้ว ยังมีพิธีกรรม ที่ใช้กระจกเหมือนกัน คือให้หันหลังให้กระจกแล้วกลืนน้ำลาย
วิธีนี้ต้องทำคนเดียวเท่านั้น โดยต้องทำก่อนเวลาเที่ยงคืนเป็นเวลา 6 นาที ให้ยืนหันหลังให้กระจก ทิศใดก็ได้ ตอนเวลา 5 ทุ่ม 54 นาที แล้ว กลืนน้ำลาย 1 ครั้ง ทุกๆ 1 นาที พอครบ 6 นาที นั่นหมายความว่า คุณได้กลืนน้ำลายไปแล้ว 6 ครั้ง ก็จะเป็นเวลาเที่ยงคืนพอดี ให้หลับตาลง แล้วหันช้าๆ ไปทางกระจก จากนั้นกลืนน้ำลายอีกครั้ง ก่อนที่จะลืมตา และผีจะออกมาให้เห็น แต่หากอยากจะหยุดพิธีกรรมนี้ ให้หลับตาลง แล้วกลืนน้ำลายอีกครั้ง เป็นอันจบพิธี
การตัดเล็บตอนกลางคืน
วิธีเห็นผีที่ทำที่บ้านได้ ยังมีอีก นั่นคือ การตัดเล็บตอนกลางคืน
ขอย้ำเลยว่า วิธีนี้ ต้องทำระหว่าง 4 ทุ่ม ถึง เที่ยงคืนเท่านั้น เพราะต้องไม่ให้เป็นเวลาโพล้เพล้ หรือ เป็นวันใหม่ โดยเริ่มตัดจากมือขวาก่อน เริ่มจาก นิ้วก้อย, นิ้วโป้ง, นิ้วนาง, นิ้วชี้ และนิ้วกลาง คือตัดจากด้านนอก เข้าข้างในนั่นเอง และทำแบบเดียวกันกับมือซ้าย โดยในระหว่างที่ตัดเล็บอยู่นั้น ต้องตัดแบบระวังเป็นพิเศษ เพื่อให้เล็บโค้งตามรูปเล็บ ห้ามหักหรือขาด มิเช่นนั้นจะไม่ได้ผล
เมื่อตัดเล็บเสร็จทั้งสองข้าง ให้นำเศษเล็บทั้งหมด ไปห่อผ้าใช้แล้ว ที่เป็นสีดำ แล้วนำไปวางไว้ทางทิศตะวันตกของที่พัก จากนั้นให้ไปนอน หลังจากนอนได้ไม่นาน คุณอาจจะได้ยินเสียงอะไรบางอย่าง ดังแกร๊กๆ อยู่ที่ปลายเท้าของคุณ ถ้าอยากเห็นให้ลืมตาขึ้นมามองได้ แต่ห้ามโวยวาย เพราะเค้ามาดี เค้าคิดว่าเราเอาเล็บไปแลก หรือไปเล่นกับเค้า แล้วเค้าก็เลยอยากตัดเล็บของเค้ามาคืน
และเมื่อคุณตื่นนอนในตอนเช้า ให้ไปยังห่อผ้าที่คุณวางไว้เมื่อคืน เปิดออกดูจะพบว่า เล็บที่อยู่ในนั้นไม่ใช่เล็บของคุณ ให้พูดเบาๆ ว่า “ขอบคุณ” แล้วเอาเล็บเหล่านั้นไปฝังลงในดิน ที่ใดก็ได้ แต่ห้ามเอาไปเผา หรือนำไปทิ้งเป็นอันขาด
การดีดลูกคิดตอนกลางคืน
และอีกวิธีที่จะทำให้ผีมาให้เห็น นั่นก็คือ การดีดลูกคิดตอนกลางคืน
ลูกคิดที่ใช้ดีด ให้ดีดอันที่มีรางยาวที่สุดเท่านั้น และต้องอยู่คนเดียว เพราะวิธีการนี้ต้องใช้สมาธิเป็นอย่างมาก โดยให้ลูกคิดทุกลูก ในทุกราง อยู่สุดราง ฝั่งที่หันมาหาตัวเรา จากนั้น ให้ดีดลูกคิดขึน โดยให้ลูกคิดนั้น ออกจากตัวทีละ 1 ลูก ค่อยๆ ไล่ไปตั้งแต่รางแรก ไปจนถึงรางสุดท้าย ต้องตั้งสมาธิให้ดีมากๆ จากนั้นจับรางลูกคิดให้ตั้งขึ้น ให้ลูกคิดทั้งหมดวิ่งกลับมาที่เดิมในตอนแรก แล้วให้ลองมองลอดช่องรางของลูกคิด รางใดก็ได้ แล้วผีก็จะมาปรากฎให้คุณเห็น หลังจากเสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้นำลูกคิดนั้นไปทิ้งทันที ห้ามนำกลับมาใช้อีกเป็นอันขาด
เอามุ้งคลุมหัวตอนกลางคืน
วิธีสุดท้ายที่พี่ราตรีจะแนะนำนั้น สามารถทำได้ง่ายมากๆ บนที่นอน ก็คือการ เอามุ้งคลุมหัวตอนกลางคืน
โดยให้หลับตา แล้วเอามุ้งมาครอบหัวไว้ จากนั้น ท่องคำว่า มะ-อะ-อุ 7 ครั้ง ระหว่างที่ท่อง ห้ามลืมตาเด็ดขาด หลังจากน้้น พอลืมตาขึ้นมาหลังจากท่องจบ ผีก็จะมาให้เห็น
ใส่เสื้อกลับหลัง
หรือจะใช้วิธีใส่เสื้อกลับหลัง ให้ข้างหลังมาอยู่ข้างหนา จากนั้นนอนหงายลงบนที่นอนที่อยู่สูงจากพื้น แล้วห้อยหัวแหงนหน้า ผีจะมาให้เห็นเหมือนกัน
อย่างไรก็ตาม พิธีกรรมเหล่านี้ เป็นเพียงความเชื่อที่ถูกทดลองขึ้นและได้สืบทอดต่อๆ กันมา ไม่แนะนำให้ไปท้าทายหรือลบหลู่ เพราะวิญญาณเหล่านั้น เป็นสิ่งเหนือธรรมชาติที่เรามองไม่เห็น
การนั่งสมาธิ เจริญวิปัสสนากรรมฐาน
วิธีที่ปลอดภัยที่สุดให้การเห็นผีที่อยากแนะนำ แต่มันต้องใช้ความตั้งใจ และความเพียรอย่างมาก นั่นก็คือ การนั่งสมาธิ เจริญวิปัสสนากรรมฐาน นั่นเอง
อย่างไรก็ดี คนที่เคยได้เห็นวิญญาณแล้วครั้งนึง ก็จะได้เห็นไปตลอดชีวิต
ขอขอบคณ Sanook.com, Sanook.com, Painaidii.com, Punicablacx, Facebook, Dailynews
📌หมายเหตุ📌
– พี่ราตรีอาจมีการเปลี่ยนแปลงบางคำพูดหรือสำนวน เพื่อให้ง่ายต่อการเล่าเรื่องราว และฟังลื่นหูนะคะ ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ 🙏
🔻🔻ติดตามพี่ราตรี🔻🔻
– Youtube: https://tiny.cc/mongkond
– Facebook: https://facebook.com/mongkondTH/
– Twitter: https://twitter.com/MongkondTH
– Website: https://mongkond.com
