Last Updated on 25 November 2021
เรื่องราวที่นำเสนอเป็นความเชื่อส่วนบุคคลโปรดใช้วิจารณญาณ
เรื่องผี เรื่องเล่าสยองขวัญ – เรื่องเล่าจากอดีต
เรื่องราวทั้งหมดนี้ เป็นประสบการณ์ตรง ที่คุณย่าได้พบเจอมา แล้วก็นำมาเล่าให้ฟัง ย้อนกลับไปเมื่อหลายสิบปีที่ก่อน ตั้งแต่สมัยที่คุณย่านั้นยังมีอายุเพียงแค่ 15 ปี วันนั้นมีงานเทศกาลที่ต่างอำเภอ คุณย่ามีชื่อว่า น้อย แล้วก็มีพี่สาวของคุณย่าชื่อว่า นาง ทั้งสองคนได้นัดกับเพื่อนๆ อีกประมาณ 9 คน กะว่าจะไปเที่ยวงานเทศกาลด้วยกัน
ในสมัยนั้นยังไม่มีรถยนต์ มีเพียงแค่เกวียน บ้านไหนมีเกวียนก็ถือว่าหรูแล้ว ส่วนมากไปไหนมาไหน ชาวบ้านก็มักจะใช้การเดินเอา คุณย่าอาบน้ำแต่งตัวตั้งแต่ 5 โมงเย็น นั่งรอเพื่อนๆ มารับ พอเพื่อนทุกคนมาพร้อมหน้ากันก็ออกเดินทาง ในมือนั้นถือตะเกียงกันไปคนละอัน แต่ไม่ได้จุดเนื่องจากว่าเป็นคืนเดือนหงายที่สามารถมองเห็นทางได้ชัดเจน ส่วนตะเกียงแค่เอาไปกันไว้เฉยๆ
ระยะทางจากบ้านของคุณย่าไปจนถึงหมู่บ้านงานนั้นห่างกันราว 10 กิโล ก็เลยมีหนุ่มคนหนึ่งในกลุ่มเสนอว่า ไปทางลัดกันดีกว่า ทางลัดเดินแค่ประมาณ 7 กิโลเอง ทุกคนในกลุ่มก็ตกลงแล้วก็พากันเดินลัดทุ่งไป เดินกันไปคุยกันไปจนฟ้านั้นเริ่มจะมืดลง คุณย่าก็บอกว่าน่าจะใกล้ถึงงานแล้ว แต่ว่าย่านางพี่สาวของคุณย่าก็เผอิญเกิดปวดท้องเบาขึ้นมา ก็เลยชวนคุณย่าไปเป็นเพื่อน ก่อนที่จะแยกไปนั้นแฟนของย่านางก็ได้แซว 2 สาวว่า “ไปกันสองคนระวังผีหลอกนะ” แต่คุณย่ากับย่านางก็ไม่ได้สนใจ รีบเดินไปทำธุระส่วนตัว
พอทำธุระเสร็จคุณย่าก็พากันเดินออกมา แฟนของย่านางก็มาแอบอยู่หลังต้นไม้ พอทั้งคู่เดินมาถึง แฟนของย่านางก็กระโจนออกมาหลอก คุณย่าทั้งสองเห็นเข้าก็ตกใจนึกว่าผี เพื่อนทุกคนที่ยืนรออยู่นั้นได้ยินเสียงกรีดร้องก็รีบวิ่งมาดู พอย่านางเห็นว่าคนที่แกล้งนั้นเป็นแฟนตัวเองก็เลยดุเอาว่า “กลางคืนทำแบบนี้มันไม่ดี คนเฒ่าคนแก่เข้าถือ” พูดจบยังไม่ทันที่ทุกคนในกลุ่มจะก้าวเท้าเดินทางต่อ ประสาทหูของทุกคนในกลุ่มก็ได้ยินเสียงเด็กร้องไห้ พร้อมกันนั้น ก็ยังมีเสียงฝีเท้ากำลังเดินย่ำใบไม้แห้งใกล้เข้ามาทุกขณะ และคนในกลุ่มนั้นก็คิดว่าน่าจะเป็นคนที่เดินลัดทุ่งมาเหมือนกัน
ทุกคนหยุดเดินอยู่ครู่เดียว ก็ได้เห็นหญิงสาวคนหนึ่ง ผมยาว กำลังอุ้มเด็ก เดินโผล่เข้ามาใกล้ หน้าตาเธอดุมาก เหมือนกับว่าโกรธใครมากในกลุ่มนั้น หญิงสาวที่กำลังอุ้มเด็กนั้นเดินเข้ามาใกล้ๆ ทุกคนแล้วหยุดเดิน แล้วก็ตวาดใส่หน้าทุกคนว่า “พวกมึงเสียงดัง จนทำลูกกูตื่น!” ย่านางเห็นเหตุการณ์แบบนั้นก็เริ่มกระเถิบตัวเข้าไปใกล้ๆ ย่าน้อย แล้วก็หยิกที่แขนแรงมาก กระซิบบอกกับย่าน้อย ให้ดูที่เท้าของผู้หญิงคนนั้น คุณย่าได้ยินแบบนั้นก็เลยก้มลงมองดู ที่เท้าของผู้หญิงคนที่กำลังอุ้มลูกอยู่นั้น เท้าของเธอไม่ติดพื้น! กำลังยืนลอยอยู่กลางอากาศ
แล้วจู่ๆ ก็มีเพื่อนคนนึงในกลุ่มที่ในมือถือตะเกียงที่จุดไฟอยู่แล้วยกขึ้นมาดู ย่าคิดในใจว่าคนที่จุดตะเกียงนั้น น่าจะเห็นเหมือนกันว่าเท้าของผู้หญิงคนนี้ไม่ได้ติดอยู่กับพื้น พอมีแสงไฟจากตะเกียงสาดส่องทั่วบริเวณนั้น ทุกคนก็ได้มองเห็นถนัดชัดเจนว่า ใบหน้าและตัวของผู้หญิง คนนั้นมีสีเขียวๆ อมม่วง และสภาพร่างกายของเธอก็กำลังอยู่ในลักษณะเหมือนศพที่กำลังขึ้นอืดเต็มที่ ตอนนั้นทุกคนเหมือนกับติดอยู่ในภวังค์ ได้แต่ยืนดูผู้หญิงอุ้มลูกคนนั้น ไม่สามารถขยับตัวได้ แล้วจู่ๆ เสียงเด็กร้องก็เริ่มดังขึ้น เสียงนั้นแหลมเล็กจนแสบแก้วหู มีเพื่อนคนนึงน่าจะทนไม่ไหว ตะโกนดังขึ้นมาว่า “วิ่ง!” แค่นั้นเอง ทุกคนก็ได้พากันวิ่งหนีตายไปคนละทิศคนละทาง
คุณย่านั้นได้วิ่งไปเหยียบตอไผ่ ได้แผลลึกยาวเกือบคืบ เดินต่อไปไม่ไหว พอดีก็มีผู้ชายกลุ่มเดียวกันมาเจอเข้า ก็เลยช่วยแบกขึ้นหลังไปด้วย พอทุกคนไปถึงหมู่บ้านที่มีงาน ก็เจอเพื่อนอีกหลายคนที่มาด้วยกัน ทุกคนนั่งรออยู่แล้ว ทุกคนก็เริ่มคิดว่า แล้ววันนี้จะกลับบ้านกันยังไง ก็ได้ข้อสรุปว่า จะไปขอให้นายบ้านนั้นเป็นคนไปส่ง นายบ้านก็ได้ไปตามเกวียนมาอีก 3 เล่ม พาทุกคนไปส่งถึงบ้าน พอกลับถึงบ้าน คุณย่ากับย่านางก็กินยาต้ม เอายาใส่แผล แล้วก็นอน
กลางดึกในคืนนั้น คุณย่าก็ฝัน ความฝันนั้นเป็นความฝันที่เหมือนจริงมาก คุณย่าฝันว่า มีเพื่อนคนนึงของย่านางชื่อว่า เกลี้ยง มายืนเรียกย่านางอยู่หน้าบ้าน แล้วย่านางก็เดินออกไปหา ทั้งหมดนั่งคุยกันอยู่ที่ใต้ถุนบ้าน ย่าเกลี้ยงก็บ่นออกมาว่า “เป็นอะไรก็ไม่รู้ เจ็บไปทั้งตัวเลย” พูดไปก็ชี้ให้ดูรอยจ้ำๆ แดงๆ ตามตัว แล้วย่าเกลี้ยงก็พูดอีกว่า “เจ็บมาก เหมือนจะไม่สบาย พรุ่งนี้ไปเยี่ยมข้าหน่อยนะ” ย่าเกลี้ยงพูดเพียงแค่นั้นแล้วก็เดินหายไป
เช้าวันต่อมา คุณย่าก็ได้ยินข่าวการตายของย่าเกลี้ยง ทุกคนนั้นตกใจจนลืมคิดไปว่า ย่าเกลี้ยงเองนั้น ก็เป็นหนึ่งในกลุ่มคนที่ไปด้วยกันเมื่อคืนนี้ แต่ย่าเกลี้ยงหายไป ย่าเกลี้ยงไม่ได้ไปโผล่ที่บ้านงาน แล้วก็ไม่ได้เดินทางกลับมาด้วยกัน ตามไปดูที่บ้านแต่ก็ไม่พบย่าเกลี้ยง หลายคนก็เลยช่วยกันออกตามหา จนกระทั่ง มีคนไปพบย่าเกลี้ยงติดอยู่ในดงหวาย โดนหนามตำทั้งตัว ย่าเกลี้ยงนั้นทนความเจ็บปวดไม่ไหว จนสิ้นใจลง ก่อนที่จะถึงบ้านที่จัดงาน
นายบ้านพอรู้ข่าว ก็เลยมาถามกับย่าว่า เมื่อคืนนี้เกิดเรื่องอะไรขึ้น ย่าก็เลยเล่าเรื่องทุกอย่างให้นายบ้านฟัง นายบ้านจึงพูดขึ้นมาว่า “พวกเอ็งไม่รู้หรือ ว่าทางนั้นไม่มีใครเค้าเดินผ่านกันแล้ว ขนาดกลางวันแสกๆ มันยังหลอกเลย!” แล้วนายบ้าน ก็เลยเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟังว่า ที่บริเวณนั้น เคยมีสองผัวเมียที่เพิ่งจะแต่งงานได้ไม่นานไปอาศัยอยู่ ฝ่ายเมียนั้นตั้งท้องอ่อนๆ มีอยู่วันนึง ผัวได้ลงไปจับปลาที่บึงข้างบ้าน แล้วเผอิญทางฝ่ายเมียนั้นก็เกิดปวดท้อง จึงเดินเข้าป่าไปเพื่อไปทำธุระ ฝ่ายผัวเห็นเมียหายไปนาน ก็เลยเดินเข้าไปดู ก็ได้เห็นเมียของตัวเองถูกงูกัดตาย หลังจากทำพิธีศพเรียบร้อยก็เฮิ้ยนหนัก จนตัวของผัวเองก็ทนอยู่ต่อไปไม่ไหว
นายบ้านก็เล่าต่อไปว่า ฝ่ายผัวเล่าให้ฟังว่า หลังจากเมียตายได้ไม่กี่คืน ผัวนั้นกำลังนอนหลับอยู่ กลางดึกก็ตื่นขึ้นมา เห็นเมียที่ตายไปแล้วมานอนจ้องหน้าอยู่ข้างๆ แล้วก็ส่งยิ้มให้ ใครจะไปอยู่ไหว จำต้องทิ้งบ้านให้กลายเป็นบ้านร้าง เรื่องราวทั้งหมดก็จบลงเพียงเท่านี้
ขอขอบคุณ เรื่องผี Pantip
📌หมายเหตุ📌
– ทางเราอาจมีการเปลี่ยนแปลงบางคำพูดหรือสำนวน เพื่อให้ง่ายต่อการเล่าเรื่องราว และฟังลื่นหูนะคะ ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ 🙏
🔻🔻ติดตามเรา🔻🔻
– Youtube: https://tiny.cc/mongkond
– Facebook: https://facebook.com/mongkondTH/
– Twitter: https://twitter.com/MongkondTH
– Website: https://mongkond.com
