Last Updated on 25 November 2021
เรื่องราวที่นำเสนอเป็นความเชื่อส่วนบุคคลโปรดใช้วิจารณญาณ
เรื่องผี เรื่องเล่าสยองขวัญ – ตามไปหลอน
เหตุการณ์นี้ เกิดขึ้นเมื่อปี พุทธศักราช 2549 เป็นช่วงที่ต้องไปศึกษาดูงาน ก่อนจะจบการศึกษา ของนักศึกษาชั้นปีที่ 4 เทอม 2 เรื่องนี้เกิดขึ้นกับนัท นัทและเพื่อนๆ ต้องเดินทางไปดูงานจาก เชียงใหม่ ลงมากรุงเทพฯ และมาต่อที่ชลบุรีอีก 1 คืน เรื่องนี้เกิดขึ้นที่ กรุงเทพฯ ในคืนแรก
วันนั้นคณะจากเชียงใหม่ มาถึงกรุงเทพฯ ประมาณ 5 โมงเย็น พอถึงโรงแรม ก็แยกย้ายกันเข้าห้องพัก โรงแรมนี้เป็นโรงแรมเก่า ชั้นล่างเป็นเหมือนม่านรูด ชั้นบนเป็นห้องพักทั่วไป มีศาลอยู่ด้านหน้า นัทและเพื่อนอีก 4 5 คน ก็ไปไหว้ศาล จากนั้นก็แยกย้ายกันเข้าห้องพักตามปกติ
คนแรกที่เจอคือเพื่อนที่ชื่อ “น้ำ” ซึ่งพักอยู่กับ “อุ๋ย” สิ่งแรกที่ปรากฏให้เห็นในห้องน้ำคือมีเศษเส้นผมอยู่ในชักโครก นัทก็วิ่งมาดู แล้วก็กดชักโครกทิ้งไป แล้วบอกว่า “แค่เศษผมเฉยๆ คนที่มาอยู่ก่อนคงกวาดมาทิ้งไว้แล้วลืมกด” แต่จริงๆ แล้ว ตอนแรกที่นัทเห็น มันเป็นเส้นผมผสมเลือดเป็นลิ่มๆ ด้วย แต่เพราะไม่อยากให้เพื่อนกลัว ก็เลยบอกไปแบบนั้น แต่น้ำและอุ๋ย ก็ตัดสินใจขอย้ายห้อง ไปนอนห้องเดียวกับนัท นัทเลยชวนเพื่อนหลายๆ คนมาเล่นในห้องด้วย
จนเวลาประมาณเที่ยงคืน เพื่อนๆ ก็พากันแยกย้ายกลับห้องใครห้องมัน เหลือเพียง น้ำ อุ๋ย ก้อย และนัท ทั้ง 4 คน ก็ขึ้นไปนอนเบียดกันบนเตียง โดยที่นัทได้นอนชิดผนังใต้แอร์ พอเคลิ้มๆ จะหลับ นัทก็ได้ยินเสียงบางอย่างชนกับแก้ว คล้ายเสียงชงเหล้า ฟังดีๆ ก็ใช่เลย! มันเป็นเสียงคนชงเหล้า แต่ตอนนี้มันดังอยู่ในห้อง! นัทพยายามข่มตานอน ในใจก็คิดว่า โดนแล้วแน่ๆ สักพักได้ยินเสียงเพื่อนพูดเบาๆ ว่า “พวกแกได้ยินแบบฉันมั้ย?!” เพื่อนอีกคนก็ตอบเบาๆ ว่า “ได้ยิน!” ตอนนั้น นัทก็แกล้งหลับอยู่ และรู้ในใจว่าไม่ได้เจอคนเดียวแน่นอน
พอเสียงเพื่อนคุยกันจบลง เพื่อนที่นอนข้างๆ นัทก็ปลุกให้ไปเปิดไฟหน่อย เพราะเพื่อนๆ กลัว นัทก็เลยฝืนใจลุกไปเปิดไฟให้ พอล้มตัวลงนอนสักพักเดียวก็ได้ยินเสียงเดิม เสียงชงเหล้าดังขึ้นมาอีก แล้วน้ำก็สะดุ้งตัวลุกขึ้นมาปลุกเพื่อนทุกคน และเล่าให้ฟังว่า ขณะที่น้ำกำลังหลับอยู่ เธอฝันเห็นผู้หญิงคนนึงใส่ชุดสีแดง กำลังชงเหล้าอยู่ที่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง แล้วพูดกับน้ำว่า “กินเหล้าไม่เห็นชวนกันบ้างเลย…” น้ำสะดุ้งตื่นด้วยความตกใจ เลยปลุกเพื่อนๆ ขณะที่น้ำกำลังเล่าอยู่ เสียงชงเหล้าก็ดังขึ้นมาอีก น้ำก็ถามเพื่อนว่า “ได้ยินเสียงใช่มั้ย!” พอพูดจบ นัทก็หยิบผ้าห่มแล้วรีบวิ่งออกจากห้องไปเลย
ทุกคนต่างก็รีบวิ่งตามออกมา แล้วก็ไปขอนอนห้องเพื่อนคนอื่นที่เพื่อนนอนอยู่ 2 คน ตอนนี้นอนรวมห้องเดียวกันเป็น 6 คนเลย โดยจะมีคนที่นอนบนเตียง 4 คน อีก 2 คนนอนที่พื้น นัทก็ลงมานอนที่พื้นหน้าทีวี เจ้าของห้องนี้ชื่อ “เอ๋” ก็นอนที่พื้นติดกับเตียง ซึ่งเตียงจะมีช่องว่างใต้เตียงอยู่ ทุกคนก็จัดที่ทาง แล้วก็นอนกันทันที เหลือแค่เอ๋ที่ยังคุยโทรศัพท์กับแฟนอยู่ นัทก็ทำท่ากำลังจะหลับ แต่หูก็ยังได้ยินเสียงเอ๋คุยกับแฟน สักพัก เอ๋ก็ถามแฟนว่า อยู่กับใคร ทำไมมีเสียงผู้หญิง แฟนเอ๋ก็บอกว่า อยู่คนเดียวไม่เห็นได้ยินเสียงใครเลย เอ๋ก็ยืนยันว่าได้ยินอยู่ แถมเสียงดังขึ้นด้วย แล้วเอ๋ก็บอกให้แฟนหยุดพูดก่อน “เสียงมันดังใกล้ขึ้นมาเรื่อยๆ ดังมาจากแถวนี้แหละ” พอพูดเสร็จเอ๋ก็ร้องกรี๊ดดังลั่นห้อง แล้วก็มีอาการชักตัวเกร็ง เพื่อนๆ พากันตกใจตื่นขึ้น แล้วหนึ่งในนั้นก็ไปเรียกอาจารย์มา
เวลาผ่านไป 2 3 ชม. เอ๋ก็อาการดีขึ้น กลับมามีสติอีกครั้ง แล้วก็เล่าให้ทุกคนฟังว่า ตอนที่คุยโทรศัพท์กับแฟน อยู่ๆ ก็ได้ยินเสียงผู้หญิง ดังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ตอนแรกคิดว่าเป็นเสียงจากปลายสาย แต่พอให้แฟนหยุดพูดแล้วฟังดีๆ เสียงนั้นดังลอดมาจากใต้เตียง พอเอ๋มองไปที่ใต้เตียง ก็เห็นผู้หญิงคนนึงค่อยๆ คลานมาหา แล้วเอื้อมมือมาหาเอ๋ เท่านั้นแหละ เอ๋ก็ตกใจร้องออกมาแล้วหมดสติไป พอทุกคนได้ฟังก็เลยอยู่เป็นเพื่อนเอ๋ แล้วพากันย้ายมานอนห้องอาจารย์
ตอนเช้านัทก็เอากุญแจไปคืนที่เคาน์เตอร์ ก็เลยถือโอกาสเล่าเรื่องเมื่อคืนให้พนักงานฟัง พนักงานก็แอบบอกนัทว่า ห้องที่เจอเศษเส้นผม เคยมีเหตุฆ่ากันตาย หญิงบริการถูกฆ่าหมกไว้ใต้เตียง กว่าทางโรงแรมจะรู้ ก็ผ่านไปหลายวันแล้ว ปกติห้องนั้นจะไม่เปิดให้เข้าพัก แต่พอดีทางคณะต้องการห้องเยอะ เลยจำเป็นต้องเปิดให้ใช้ เพราะห้องมีไม่เพียงพอ แต่อีก 2 ห้องที่เหลือก็ไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น เหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น อาจจะเป็นไปได้ว่า วิญญาณผู้หญิงคนดังกล่าว ได้ติดตามไปห้องที่เหลือด้วย
ดังนั้นในคืนที่ 2 ทั้งสาขาเลยพากันยกขโยงไปเที่ยวกันหมด เหลือแต่ก้อยที่ไม่สบายต้องนอนพักอยู่ที่ห้อง นัทจึงอาสาเฝ้าไข้ให้ สรุปทั้งสาขาเหลือนัทกับก้อยแค่ 2 คน ที่อยู่ที่โรงแรม โดยห้องสวีทที่พักนั้นจะมีเตียงใหญ่ 2 เตียง เตียงเล็ก 1 เตียง นัทเลือกนอนเตียงเล็ก ให้เพื่อนที่ไม่สบายนอนเตียงใหญ่ ด้วยความกลัวก็เลยนอนไม่ปิดไฟ พอใกล้จะหลับ ก้อยก็เรียกนัทให้อยู่เป็นเพื่อนก่อน นัทก็ตอบว่า “ไม่ต้องห่วง ยังไม่นอนหรอก” สักพักนัทก็เรียกเพื่อน ปรากฏว่าก้อยหลับไปแล้ว นัทก็เลยจะนอนบ้าง พอกำลังจะหลับ จู่ๆ ก็ได้กลิ่นแป้งแรงมาก พร้อมกลิ่นลิปสติก นัทจึงบอกออกไปว่า “ขอนอนเถอะนะ เพราะเมื่อคืนก็ไม่ได้นอนเลย” พอพูดจบ จากกลิ่นแป้งหอม ก็กลายเป็นกลิ่นซากเน่าๆ ลอยมาจากหัวเตียง นัทก็พยายามกลั้นใจนอนจนหลับไป
ตอนเช้ามา ก้อยก็เล่าให้ฟังว่า เมื่อคืนฝันเห็นผู้หญิงคนนึงใส่ชุดสีแดงนั่งอยู่บนหัวเตียงมองนัทอยู่ และกำลังคุยกับนัทด้วย เค้าบอกว่า ขอให้ทำบุญให้หน่อย เค้าติดต่อนัทได้คนเดียว นัทเลยรู้ว่า กลิ่นที่เจอเมื่อคืน น่าจะมาจากเค้าที่มาขอส่วนบุญนั่นเอง
หลังจากนั้น คณะดูงานก็ต้องไปต่อที่ จังหวัดชลบุรี ตามกำหนดการ ซึ่งนัทกะไว้ว่าจะไปทำบุญให้ผู้หญิงคนนั้นหลังจากที่กลับไปถึงเชียงใหม่แล้ว พอทั้งคณะไปถึงชลบุรี ก็พากันเก็บของเข้าบ้านพัก แต่อยู่ๆ อุ๋ยก็ร้องขึ้นมาว่า มีอะไรไม่รู้แข็งๆ อยู่ในกระเป๋า นัทก็เลยถามว่า หวี รึเปล่า อุ๋ยบอกว่า ไม่น่าจะใช่ จึงเปิดกระเป๋าดู สิ่งที่เจอคือ กุญแจห้อง ห้องที่เอ๋เจอผู้หญิงคลานอยู่ใต้เตียงนั่นแหละ แต่นัทยืนยันได้เลยว่าเป็นคนเอากุญแจดอกนั้นไปคืน และขอเปลี่ยนห้องเองกับมือ อาจารย์จึงอาสาที่จะจัดการกับกุญแจนั้น โดยการติดต่อส่งคืนให้กับทางโรงแรม หลังจากนั้นก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นอีก จนเสร็จการศึกษาดูงาน
เรื่องทั้งหมดควรจะจบแค่นั้น แต่ไม่ใช่ หลังจากนั้นประมาณ 2 อาทิตย์ อุ๋ยเล่าว่า ตั้งแต่กลับมาจากกรุงเทพฯ เวลาจะนอน พอปิดไฟ จะเห็นผู้หญิงชุดสีแดงกระโปรงสั้นยืนหันหน้ามามองตลอด แต่อุ๋ยมองไม่เห็นใบหน้า เพราะผมของเธอบังหน้าไว้ เธอคนนั้นจะมายืนอยู่หน้าตู้เสื้อผ้าทุกวัน แต่พอเปิดไฟก็จะหายไป อุ๋ยเลยต้องนอนเปิดไฟทุกวันเป็นเวลา 2 อาทิตย์มาแล้ว จนกระทั่งวันนึง เพื่อนๆ ไปนั่งเล่นที่หอของอุ๋ย มีการซื้อผลไม้มากินกัน พอปอกเปลือกมะม่วงเสร็จ ก็วางมีดไว้ที่หัวเตียง โดยหันปลายมีดไปทางตู้เสื้อผ้า พอเพื่อนๆ กลับไปหมด พอตกกลางคืน อุ๋ยเล่าว่า ผู้หญิงที่มักจะยืนอยู่หน้าตู้เสื้อผ้า วันนี้ไม่ได้ยืนเฉยๆ แต่กระโดดมาคร่อมตัวอุ๋ยพร้อมกับบีบคอ และบอกว่า “มึงลบหลู่กู มึงอยากตายมากใช่มั้ย!” อุ๋ยก็พยายามต่อสู้จนหลุดมาได้ ตอนเช้าอุ๋ยไปเล่าให้เจ้าของหอฟัง เจ้าของหอเลยพาไปหาพระครูที่เคารพ พระครูบอกว่า ผู้หญิงคนนั้นโกรธที่เอาด้านคมมีดหันไปหาเค้า เพราะเค้านั่งอยู่หน้าตู้เสื้อผ้า ก็เลยจะมาเอาชีวิตอุ๋ย แต่โชคดีที่อุ๋ยยังไม่ถึงฆาตก็เลยรอดมาได้ อุ๋ยถามว่า ผู้หญิงคนนั้นเข้ามาได้ยังไง พระครูบอกว่า อุ๋ยเอาของของเค้าติดกลับมาด้วย เค้าก็เลยตามเข้ามาได้ อุ๋ยบอกว่าไม่มีอะไรติดมาแน่นอน พระครูเลยบอกให้ไปหาดูดีๆ อุ๋ยกลับไปที่ห้อง ค้นหาจนเกือบหมดห้องแล้ว จนกระทั่งไปค้นที่เป้ใบที่ใส่เสื้อผ้าที่เอาไปพักที่กรุงเทพฯ หาอย่างละเอียด ก็พบเศษผมที่ก้นกระเป๋า ทีแรกก็คิดว่าเป็นผมตัวเอง ไม่ก็ของเพื่อนๆ แต่พอคิดดูดีๆ ก็ไม่มีใครผมยาวเท่านี้เลย จึงสรุปว่า ที่เค้าตามมาได้ ก็เพราะเส้นผมที่ติดมากับกระเป๋านี่แหละ พระครูก็บอกว่า ให้เอาเส้นผมนี้ไปเผาทำลาย เค้าจะได้ไปอยู่ในที่ที่เค้าควรอยู่ และหลังจากเผาเส้นผมเสร็จ อุ๋ยก็ไม่เจอผู้หญิงคนนั้นอีกเลย
ขอขอบคุณ เรื่องผี Pantip
📌หมายเหตุ📌
– ทางเราอาจมีการเปลี่ยนแปลงบางคำพูดหรือสำนวน เพื่อให้ง่ายต่อการเล่าเรื่องราว และฟังลื่นหูนะคะ ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ 🙏
🔻🔻ติดตามเรา🔻🔻
– Youtube: https://tiny.cc/mongkond
– Facebook: https://facebook.com/mongkondTH/
– Twitter: https://twitter.com/MongkondTH
– Website: https://mongkond.com