Last Updated on 26 November 2021
เรื่องราวที่นำเสนอเป็นความเชื่อส่วนบุคคลโปรดใช้วิจารณญาณ
เรื่องผี เรื่องเล่าสยองขวัญ – บ้านมือสอง สยองขวัญ
เราได้แต่งงานกับสามีที่เป็นคนไทย แต่เค้าเกิดอยู่ที่ฝรั่งเศส และเรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นที่นั่น เราแต่งงานกันได้ประมาณ 4 ปี ก็ได้ตั้งท้อง สามีจึงอยากจะซื้อบ้านเป็นของตัวเอง จากที่อาศัยอยู่บ้านเช่ากับแม่สามี เพราะอยากให้ลูกและน้องหมาที่เลี้ยงได้มีพื้นที่เล่น เลยเริ่มหาบ้านเป็นบ้านมือสอง เพราะด้วยเครดิตที่เราสองคนมี ไม่สามารถซื้อบ้านใหม่พร้อมที่ดินได้ เพราะราคาแพงมากๆ เลยตกลงกันที่บ้านมือสองที่มีพื้นที่ และราคาไม่แพงมาก หาอยู่นานเป็นปี จนมาเจอบ้านต้นเรื่องนี้
สามีไปดูก็ชอบ เพราะตรงตามสเปกที่ตั้งไว้เลย แถมต่อรองราคาได้อีก เลยตกลงนัดคุยกับนายหน้าและเจ้าของ เพื่อทำการเซ็นสัญญาซื้อขายกัน โดยทั้งหมดนี้สามีเราจัดการคนเดียวหมด และเล่าให้เราฟังคร่าวๆ ถึงตัวบ้าน ว่าดีอย่างโน้นอย่างนี้ แต่ไม่ได้พูดถึงรอบๆ บ้านเลย
วันต่อมา สามีก็มารับเราไปดูบ้าน ครั้งแรกที่ขับเข้าซอยบ้านเราขึ้นไป สิ่งแรกที่เราเห็นคือ ป่าช้า มันขนาบบริเวณซ้ายและขวาของตัวบ้านเลย พระเจ้า เราอุทานในใจ เพราะเป็นคนกลัวผีมาก คิดเลยว่าจะอยู่ได้มั้ยเนี่ย พอไปถึงหน้าบ้าน เราก็ขึ้นไปดูในตัวบ้าน ดูห้องทุกห้อง มาสะดุดตรงห้อง ที่นายหน้าขายบ้านบอกว่าเป็นห้องของลูกชายเจ้าของบ้าน ที่สะดุดเพราะที่พื้นห้องมีเครื่องเซ่นไหว้เก่า มีธุปสีดำปักในกระถางธุป มีขวดน้ำ ของไหว้อะไรซักอย่างที่เราดูไม่ออกว่าคืออะไร หนำซ้ำ ที่พื้นมีร่องรอยไฟไหม้ด้วย เราบอกสามีว่าไม่ค่อยชอบเลย สามีบอกไม่เป็นไร เพราะเค้าจะรื้อภายในและทำใหม่หมดเลย คงไว้แต่ภายนอก เราค่อยโอเคหน่อย
หลังจากนั้นได้ไม่นาน เราก็คลอดลูก จนผ่านไปได้ 8-9 เดือน สามีเราก็เริ่มทำบ้าน ทำไปได้ระยะนึงจนพอเข้าอยู่ได้ เราก็เริ่มขนของย้ายเข้าไปอยู่กัน ระหว่างที่เราย้ายของเข้ามาอยู่ มีอยู่วันนึง น้องหมาที่เลี้ยงไว้ ก็เห่าอะไรสักอย่างจากหลังบ้าน ลักษณะการเห่า เหมือนเห่าขู่กรรโชก แต่ไม่ใช่การเห่าหอน เราก็พยายามมองหาต้นตอของที่มา ว่าเห่าอะไร ก็ไม่เห็น ขณะเดียวกัน แม่สามีก็มองเหมือนกัน แต่แม่สามีไม่มองเฉยๆ นะ นางเดินไปเปิดประตู แล้วตะโกนออกไปว่า “ยืนรออะไรจะเข้ามาก็เข้ามา!!” เชื่อมั้ยคะ เราต่อว่าแม่สามีเลยค่ะ จากที่ไม่เคยเถียงแกมาก่อน แต่ครั้งนี้เราหลุดออกไปได้ยังไงไม่รู้ หรือว่านี่คือที่มาของเรื่องทั้งหมด….
หลังจากที่ย้ายเข้าอยู่ได้ 2-3 เดือน สามีก็ทะยอยทำบ้านไปด้วย ทำไปอยู่ไป โดยจะเอาเวลาหลังเลิกงานกลับมาทำ ทีนี้ก็จะทำอยู่จนดึกเลย ยิ่งถ้าวันพรุ่งนี้ไม่ต้องไปทำงาน จะอยู่ถึงตี 3-4 เลย และวันนั้นก็เช่นกัน เค้าทำงานอยู่คนเดียว แต่เรากับลูกและแม่สามี กลับไปนอนบ้านแม่สามี เพราะเค้าจะทาสีกลิ่นมันแรง ในขณะที่เค้ากำลังทาสีเพดานอยู่นั้น เค้าบอกว่า จู่ๆ ก็รู้สึกหนาวๆ ขึ้นมา ทั้งๆ ที่เป็นหน้าร้อน มันหนาวขึ้นมาแบบ เย็นยะเยือก แบบที่เค้าไม่เคยรู้สึกมาก่อน แป๊ปเดียว เค้าก็รู้สึกได้ว่า มีอะไรบางอย่างผ่านร่างเค้าไป เห็นเหมือนเป็นควันๆ หมอกๆ เป็นกึ่งๆเ งาเป็นรูปเป็นร่าง แต่ไม่ชัด ลอยผ่านทะลุตัวสามีไป แล้วความรู้สึกของสามี เหมือนว่าสิ่งนั้นยังยืนอยู่ข้างหลังเค้าไม่ไปไหน จนสามีขนลุกไปทั้งตัว ในหัวเค้าบอกว่า ไม่ใช่ ไม่เชื่อหรอกว่าจะเป็น…… แต่ความรู้สึกก็ยังอยู่ จนเขาตัวแข็งค้างอยู่แบบนั้น พอได้สติ เค้าบอกว่า เค้าพยายามรวบรวมความกล้าที่เหลืออยู่น้อยนิด ร้องเพลง เพลงอะไรไม่รู้ ร้องไปด้วยเก็บเครื่องมือไปด้วย ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น พอขึ้นรถได้ก็เร่งเครื่อและรีบโทรมาหาเรา เล่าเป็นตุเป็นตะ น้ำเสียงสั่นๆ จับต้นชนปลายไม่ถูก และหลังจากนั้นอีกสองวัน เค้าก็กลับไปทาสีต่อจากที่ทาค้างไว้ และพาเรามาเป็นเพื่อนด้วย
เวลาผ่านไป 1 ปี และตลอด 1 ปีที่ผ่านมา เราก็อยู่กันสบายดีไม่มีอะไร นอกจากแม่สามีทที่ป่วยบ่อยๆ ด้วยโรคประจำตัวแก และบ้านก็เสร็จไปได้แค่ 40% คือชั้นบน แต่ชั้นล่างยังเหมือนเดิม เพราะสามีทำคนเดียว นานๆ ทีจะมีเพื่อน มีญาติมาช่วย แต่จู่ๆ วันนึง ก็มีเหตุการณ์ที่ทำให้เรางง และยังหาคำตอบไม่ได้ ว่ามันคืออะไร คราวนี้ เราอยู่ในบ้านกัน 3 คน ประมานบ่ายๆ เป็นเวลานอนกลางวันของลูกเรา ลูกนอนอยู่ชั้นบน เรากับแม่สามีนั่งกินกาแฟคุยกันอยู่ข้างล่าง แต่จู่ๆ ได้ยินเสียงคนวิ่งอยู่ข้างบน ในห้องนอนที่ลูกเรานอนอยู่ เป็นเสียงวิ่ง ที่เหมือนเสียงวิ่งของเด็ก คือไม่หนักมาก แต่ได้ยินชัดเจน เพราะเราแง้มประตูห้องไว้ เผื่อลูกตื่นเราจะได้ได้ยิน หลังจากได้ยินเสียงวิ่ง เรากับแม่สามีก็มองหน้ากัน แม่สามีก็พูดว่า สงสัยตื่นตื่นแล้ว พอดีแหละนอนไปได้ชั่วโมงกว่าละ เดี๋ยวเตรียมขนมของว่างไว้ให้เลยดีกว่า เราเลยบอกแม่สามีว่า งั้นขึ้นไปดูก่อนนะ กลัวจะเดินลงมาคนเดียว กลัวตกบันได แต่พอเราเปิดประตูห้องเข้าไป ปรากฎว่าลูกเรายังหลับปุ๋ยอยู่เลย ไม่มีอาการของคนตื่นแล้วไปหลับต่อเลย จะว่าละเมออะไรก็ไม่ใช่ ไม่น่าจะวิ่งแล้วกลับไปหลับได้เร็วขนาดนั้น เรายืนอึ้งขนลุกซู่อยู่ท่ามกลางความเงียบ และค่อยเดินออกจากห้องมา เดินลงบันไดมาด้วยความงง แม่สามีถามว่า อ้าวยังไม่ตื่นหรอ เราบอกว่า ไม่ตื่นและยังนอนปรกติเหมือนเดิม เรากับแม่สามีมองหน้ากันด้วยความงงว่า แล้วใครวิ่งอยู่ข้างบนในห้องเรา
ไม่นาน อยู่ๆ เราก็เกิดป่วยเป็นลมพิษ ผื่นขึ้นเต็มหน้าเต็มตัวเลย หายใจไม่ออก จุกอก ต้องหามส่งโรงพยาบาล หมอบอกว่าเป็นลมพิษ แพ้อากาศ แต่เป็นชนิดรุนแรง เราเลยหาข้อมูลและพยายามดูแลตัวเอง เค้าบอกว่าออกกำลังกายให้ร่างกายแข็งแรงแล้วจะดีขึ้น เราเลยตื่นมาออกกำลังกายตอนเช้า และเช้าวันนั้น คิดว่าจะเล่นโยคะ เวลา 6 โมงครึ่ง เรากำลังกับปูเสื่อโยคะ จู่ๆ เราได้กลิ่นน้ำหอม เป็นกลิ่นกลางๆ แยกไม่ออกว่ากลิ่นผู้ชายหรือผู้หญิง แต่กลิ่นที่เราได้กลิ่นคือชัดเจนมาก ได้กลิ่นแบบอยู่ใกล้ตัวเราเลย เรายืนหันซ้ายหันขวาอยู่ พยายามหาว่ามาจากไหน สามีก็ยังไม่ตื่น ที่สำคัญ สามีทำงานในอู่รถ ไม่เคยฉีดน้ำหอมไปทำงานเลย แม่สามียิ่งไม่ใช่ ที่แน่ๆ เวลานี้ทุกคนยังไม่ตื่น เพราะเป็นช่วงหน้าหนาว นอนหลับสบายเลย ในบ้านเงียบมาก มีแต่กลิ่นหอมที่มันชัดเจนครุอยู่ในหัวเราอยู่ทุกวันนี้ ถามว่าแล้วโยคะได้เล่นต่อมั้ย? หึ เล่นต่อก็ไม่ใช่เราแล้วค่ะ
เวลาผ่านไป ตอนนั้นลูกเราอายุได้สัก 2 ขวบ พูดได้แล้ว มีอยู่วันนึง ในขณะที่เราอยู่ในบ้านกับลูก 2คน สามีไปทำงาน และแม่สามีป่วย นอนอยู่โรงพยาบาล เราก็ง่วนๆ ทำอะไรอยู่ในบ้านตามปรกติ ปล่อยลูกเล่นจักรยานกับน้องหมาในบ้าน น้องหมาชื่อออสติน เราได้ยินเสียงลูกพูดว่า ไม่! ไม่! หลายครั้งเลย เลยเดินไปดู คิดว่าลูกพูดกับออสตินรึเปล่า แต่ลูกก็ไม่พูดชื่อออสติน พูดแต่ไม่ๆๆ เราเลยถามว่า ทำไมมีอะไรครับ พี่ออสตินแกล้งหรอ ลูกบอกไม่ ไม่ใช่แม่ มีพี่มาขอเล่นจักรยานด้วย แต่หนูไม่ให้เล่นหรอก เราเลยถามว่าพี่ที่ไหน ไม่เห็นมี ลูกบอก นี่พี่อยู่ข้างหลังนี่ ได้ยินแค่นั้นแหละ เราอุ้มลูกวิ่งหนีขึ้นไปชั้นบนเลย แต่อย่าคิดว่าหนีไปข้างบนจะรอดนะ เพราะเรื่องก็เกิดชั้นบนอีก
หลังจากนั้น หนึ่งอาทิตย์ต่อมา เราก็เล่นกับลูกตามปรกติในห้องนอน ขณะที่เล่นต่อสู้กันอยู่ ลูกเราคงเหนื่อยและกระหายน้ำ ลูกก็มาบอกว่า แม่ๆ หนูอยากกินน้ำ เราก็บอกลูกว่า น้ำวางอยู่บนโต๊ะนะครับ ลูกไปหยิบมาดื่มคนเดียวได้เลย ลูกเราก็วิ่งไปหยิบขวดน้ำมา แล้ววิ่งลงมานั่งข้างๆ เรา แต่ลูกกับชะงักไป แล้วจ้องไปที่ฝาห้อง มองอยู่แบบนั้นเป็น 1-2 นาที เราเลยถามลูกว่า ทำไมครับมีอะไร แล้วมองตามลูก ลูกบอกพร้อมชี้มือไปทางที่เพิ่งละสายตามา แล้วบอกว่า แม่ๆ พี่ขอกินน้ำด้วย แต่หนูไม่ให้กินหรอกนะ เราคิดในใจ เอาอีกแล้วหรอ มาอีกแล้วแล้วหรอ คราวนี้เราเลยตะโกนไปดังๆ เลยว่า ไม่ให้กิน ถ้าจะกินเดี่ยวทำบุญไปให้ ไม่ต้องมาแกล้งลูกเรา ที่นี่บ้านเรา เราจ่ายตังค์ซื้อมา ไม่ต้องมากวน ได้ผลค่ะ ถามลูกว่า พี่ไปรึยัง ลูกบอกพี่ไปแล้ว เราเลยถามว่า พี่สีอะไร ลูกบอกสีดำ น่าจะมาเป็นเงาๆ นะคะ
ต่อมา ในระหว่างนี้แม่สามีป่วยบ่อยๆ สามีก็ประสบอุบัติเหตุเล็กน้อยบ่อยมากๆ ประจวบกับที่เราก็ป่วยด้วย และลูกก็มาล้มหน้าฟาดพื้นแก้มยุบอีก จึงมีผู้ใหญ่ และหลายๆ คนทักมาว่า ให้ทำบุญบ้าน พอผ่านไปได้ 2 เดือน ญาติสามีมาจากไทย มาเที่ยวอาทิตย์หนึ่ง ญาติสามีเจอดีเลยค่ะ มีอยู่วันนึง หลังจากกลับจากพาญาติๆ ไปเที่ยวมา ทานข้าวเย็นเสร็จ พวกผู้ใหญ่ก็พากันตั้งวงเล่นไพ่กัน แต่มีน้าคนนึงแกไม่ได้เล่นด้วย แกขอตัวไปนอนก่อน แกเล่าว่า แกนอนไปได้ซักพัก ก็มีอาการเหมือนโดนอำ คือหูได้ยินหมด ป๊อก8 ป๊อก9 แกได้ยิน แต่ตาลืมไม่ขึ้น แกพยายามตั้งสติ สวดมนต์ ทีนี้ลืมตาได้บ้าง แกเห็นเป็นเงาดำๆ ลักษณะเป็นผู้ชาย เดินทะลุประตูห้องเข้ามาหาแก แกพยายามดิ้นจนเอามือไปฟาดใส่ข้างฝา ถึงหลุดออกมาได้ แกรีบวิ่งหน้าตาตื่นลงมานั่ง ไม่กล้าเล่าให้ใครฟัง จนถึงเช้าถึงบอกแฟนเค้า แฟนเค้าเลยมากระซิบถามเรา ว่าบ้านนี้ทำบุญรึยัง ถ้ายังไม่ได้ทำ ก็ทำซะนะ
พอญาติสามีกลับไปแล้ว เราก็ไปทำงาน เลิกงานกลับมา ปรกติเราก็มองขึ้นบ้านทุกครั้งที่เดินขึ้นบ้าน เพราะบางที จะดูด้วยว่าสามีลืมปิดไฟห้องใต้หลังคารึป่าว เย็นนี้ก็เหมือนกัน เราก็เดินขึ้นบ้านเหมือนทุกครั้ง บ้านเราจะเป็นเนิน แต่วันนี้สามีไม่ได้ลืมปิดไฟ เพราะไม่เห็นแสงลอดออกมาจากห้องใต้หลังคา แต่สายตาเรากลับเห็นอะไรบางอย่าง มันคือเงาคน ลักษณะเหมือนผู้ชาย ยืนมองเราจากทางหน้าต่างชั้นสองของบ้าน เราก็คิดว่า สามีมายืนมองเราหรอ ซึ่งผิดวิสัยของเค้า เพราะส่วนใหญ่เวลานี้เค้าจะอยู่กับลูกหรือไม่ก็กับน้องหมา ไม่น่าจะมายืนมองเราได้ เราก็เปิดประตูบ้านเข้าไป เห็นแม่สามีนั่งดูละครไทยอยู่ หัวเราะคิกคักของนาง และได้ยินเสียงพ่อลูกหัวเราะกันอยู่ในห้องน้ำ กำลังอาบน้ำกันอยู่ เราเลยถามแม่สามีว่า พ่อลูกเค้าเพิ่งเข้าไปอาบน้ำกันหรอ แม่สามีตอบมาว่า อาบตั้งนานแล้ว และบอกเราว่า มาก็ดีแล้ว เอาเสื้อมาเตรียมให้ด้วย เมื่อกี้สามีเราบอกแม่แล้ว แต่แม่ติดดูละครเลยยังไม่ได้เตรียมให้ เราคาใจมากเลยขึ้นไปดูง และเข้าไปดูในห้อง ก็เห็นทุกอย่างเป็นปรกติ มีแต่ของเล่นลูกวางอยู่เต็มห้อง
เรากับแม่สามีเริ่มคุยกันว่าหรือเราจะทำบุญบ้านกันดี ซึ่งความตั้งใจแรกคือ จะทำหลังจากบ้านเสร็จหมดเรียบร้อยแล้ว แต่เจอกันขนาดนี้ บวกกับที่ผู้ใหญ่ทักมา เลยหาวันกัน พอได้วันดีแล้ว ก็จัดการนัดพระ บอกเพื่อนทุกคน รวมถึงเพื่อนเราที่อยู่ทางใต้ด้วย และอีกคนอยู่เยอรมัน ก็ตกลงจะมาร่วมทำบุญบ้านกับเราด้วย ทุกคนต่างทะยอยมาบ้านเราก่อนวันงาน 1-2 วัน เราก็จัดแจงให้เพื่อนๆ และญาติสามี นอนเป็นสัดเป็นส่วน ประมาณว่าใครรู้จักกันก็นอนด้วยกัน ส่วนเพื่อนคนที่มาเป็นครอบครัว เราก็ให้นอนแยกห้องแบบส่วนตัว และคืนก่อนวันทำบุญหนึ่งคืน สามีเพื่อนเราที่เป็นฝรั่งก็เจอ คือเพื่อนเราที่มาจากทางใต้ของฝรั่งเศส เค้ามาเป็นครอบครัวและมีลูกมาด้วย เราเลยให้นอนอีกห้องนึง พอตกกลางคืน ในขณะที่ทุกคนหลับกันหมดแล้ว สามีเพื่อนเค้ารู้สึกเหมือนว่ามีใครมาเกาหลังเค้า ตอนแรกเค้าคิดว่าเป็นเพื่อนเรามาสกิด แต่เค้านึกขึ้นได้ว่า เค้านอนหันหน้าให้หน้าเข้าหาเพื่อนเรานี่นา แล้วใครกันเป็นคนมาเกาหลังเค้า เรื่องนี้เพื่อนมาเล่าให้เราฟังทีหลัง ถึงว่าเราชวนเพื่อนค้างต่ออีกสักหน่อย เพื่อนเราไม่ยอม ขอกลับอย่างเดียวเลย
จนมาถึงวันงาน พระท่านทำพิธีเสร็จ ท่านก็ได้เทศน์ถึงเรื่องทั่วไป หลายๆ เรื่อง รวมถึงเรื่องสิ่งลี้ลับด้วย ท่านมองออกไปนอกหน้าต่างแล้วพูดว่า บ้านที่มันร้างมาเป็นสิบๆ ปี ก็เป็นธรรมดาที่จะมีอะไรมาอยู่ และวันนี้ เราก็ได้พากันมาทำพิธี ส่งเค้าไปอยู่ในที่ของเค้า ในภพภูมิเค้าแล้ว ไม่มีอะไรแล้วนะ พูดเสร็จท่านหันมามองเราแล้วบอก สบายใจได้ ตั้งแต่นั้นมา ผ่านไปสักอาทิตย์นึง เราเลยถามลูกว่า เห็นพี่คนนั้นอีกมั้ย ลูกบอก ไม่ครับ ไม่เห็นแล้วครับ
ขอขอบคุณ เรื่องผี Pantip
📌หมายเหตุ📌
– ทางเราอาจมีการเปลี่ยนแปลงบางคำพูดหรือสำนวน เพื่อให้ง่ายต่อการเล่าเรื่องราว และฟังลื่นหูนะคะ ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ 🙏
🔻🔻ติดตามเรา🔻🔻
– Youtube: https://tiny.cc/mongkond
– Facebook: https://facebook.com/mongkondTH/
– Twitter: https://twitter.com/MongkondTH
– Website: https://mongkond.com