เรื่องผี เรื่องเล่าสยองขวัญ – เล่นพิเรนทร์

image_pdfดาวน์โหลดไฟล์ PDF

Last Updated on 26 November 2021




Mongkond เรื่องผี เรื่องเล่าสยองขวัญ EP8 - เล่นพิเรนทร์ ผีถ้วยแก้ว

เรื่องราวที่นำเสนอเป็นความเชื่อส่วนบุคคลโปรดใช้วิจารณญาณ

เรื่องผี เรื่องเล่าสยองขวัญ – เล่นพิเรนทร์

เหตุการณ์ทั้งหมดนี้ เกิดขึ้นที่โรงเรียนแห่งนึงแถวย่านท่าพระ เมื่อประมาณยี่สิบปีที่ผ่านมา วันนั้นเป็นวันพฤหัสบดี ด้วยความอยากรู้อยากลองของเราและเพื่อนๆ ก็มาคุยกันว่า วันศุกร์ตอนเลิกเรียน หลังจากที่ทุกคนกลับบ้านกันหมดแล้ว จะมาเล่นผีถ้วยแก้วกัน โดยเราอาสาทำกระดานผีถ้วยแก้วเอง จึงได้ไปถามวิธีการมาจากคนเฒ่าคนแก่ จากนั้นก็เริ่มทำ โดยใช้กล่องกระดาษ ตัดเป็นแผ่นสี่เหลี่ยม ใช้พู่กันจีน แต้มเลือดไก่สดๆ แล้วเขียนข้อความบนกระดาน

พอถึงวันศุกร์หลังเลิกเรียน หลังจากที่ทำความสะอาดห้องเสร็จแล้ว เราและเพื่อนๆ อีกสี่คน ก็ได้นั่งกันที่หลังห้อง หยิบเอาอุปกรณ์ทั้งหมดออกมา มีกระดานผีถ้วยแก้ว ถ้วยแก้วเล็กๆ ใบนึง กระจกส่องหน้าประมาณห้านิ้ว กระถางธูป และธูปหนึ่งดอก มีเพื่อนคนนึงขอยืนดูอยู่เฉยๆ จึงมีคนเล่นทั้งหมดสี่คน หลังจากมานั่งล้อมวงกันหมดแล้ว เพื่อนก็พูดขึ้นมาว่า “จะเรียกเค้ายังไงดี” เราบอกว่า “ท่อง นะโมพุทธายะ ย้อนหลังสามรอบ เป็นการอัญเชิญวิญญาณ”

พอทุกคนท่องจบ รู้สึกว่ากระดานมันขยับเล็กน้อย ทุกคนต่างมองหน้ากันเลิกลั่ก เราพูดว่า “ถ้าท่านมาแล้ว ให้ไปที่คำว่าใช่ หรือไปที่รูปบ้านก็ได้” แต่แก้วก็ยังไม่ได้ขยับไปไหน แต่อยู่ๆ ไม้กวาดหลังห้อง ที่อยู่ในช่องเก็บของ ก็เด้งตกลงมาที่พื้นเอง ทุกคนตกใจหันไปมองเป็นตาเดียวกัน แต่ก็ไม่ได้มีใครสนใจมันมากนัก แล้วหันไปสนใจผีถ้วยแก้วกันต่อ แต่ว่าเรียกเท่าไหร่ แก้วก็ยังไม่ยอมขยับ แต่เราสังเกตเห็นเพื่อนผู้หญิงที่นั่งอยู่ข้างๆ ค่อยๆ ก้มหน้าลงทีละนิด เหมือนพยายาม สังเกตอะไรสักอย่างในกระจก ที่ตั้งอยู่ข้างๆ กระดาน แล้วอยู่ๆ เพื่อนผู้หญิงก็ลุกพรวด คว้ากระเป๋าแล้วเดินออกจากห้องทันที



เพื่อนที่เหลือต่างนั่งมองหน้ากัน เราคิดในใจว่าเพื่อนต้องเห็นอะไรแน่ๆ ทุกคนต่างระแวงกันไปต่างๆ นานา จนดูท่าไม่ดี จึงย้ายกันไปนั่งเล่นที่หน้าห้อง เพราะจุดนั้นจะสว่างกว่าหลังห้อง จากนั้นก็เริ่มท่องใหม่กันตั้งแต่แรก แต่คราวนี้แก้วขยับเคลื่อนที่ โดยที่ไม่สามารถรู้ได้เลย ว่ามีใครแกล้งขยับมันอยู่หรือเปล่า ลักษณะแก้วจะวนเร็วมาก จนไปหยุดอยู่ที่อักษร “ร” ด้วยความนึกสนุก เราจึงได้ถามไปว่า “ถ้ามาแล้วจริงๆ เพื่อนผมมันใส่กางเกงในสีอะไร” แต่ความรู้สึกขณะนั้น เหมือนแก้วมันพยายามจะพลิก ทุกคนจึงช่วยกันกดไว้ แล้วก็ถามกันว่า เป็นฝีมือใคร จะแกล้งกันหรือเปล่า แต่จังหวะนั้นก็ได้ยินเสียงอะไรบางอย่าง กลิ้งเข้ามาทางหน้าต่างหลังห้อง เสียงดัง ตุ๊บ! ตึ่ก! ตึ่ก! ตึ่ก! ทุกคนตกใจมาก รีบหันไปมองทางต้นเสียง สิ่งนั้นกลิ้งไปชนกับประตูหลังห้องแล้วก็หยุด ลักษณะเป็นลูกกลมๆ เพื่อนเราก็พูดขึ้นมาว่า
“ใครโยนลูกมะพร้าวเข้ามาวะ นี่มันชั้นสามนะ”



ทุกคนยังคงจับตามองไปที่ลูกกลมๆ นั้น แต่เหมือนว่ามันค่อยๆ ขยับหมุนอยู่กับที่ เหมือนมีคนไปจับมันหมุนเบาๆ เราพยายามเพ่งมองไปที่สิ่งนั้น ไม่รู้ว่าเป็นเพราะจิตปรุงแต่งหรือเปล่า แต่เห็นเหมือนเป็นจมูกคน เราเริ่มใจสั่น ภาวนาขอให้ตนเองมองผิด แล้วพยายามสังเกตให้ดีๆ อยู่ๆ ก็ได้ยินเสียงเพื่อนพูดขึ้นมาว่า “เฮ้ย! หัวคนนี่หว่า!” ทุกคนรีบวิ่งกระเจิงออกจากห้องทันที แล้วต่างคนต่างวิ่งหนีกลับบ้าน

เช้าวันต่อมา ทุกคนโดนครูเรียกเข้าไปทำโทษ สาเหตุที่ครูทราบ เพราะว่าพวกเราไม่ได้เก็บอุปกรณ์ต่างๆ กลับมาด้วย หลังจากพักทานอาหารเที่ยง เราก็ไปถามเพื่อนผู้หญิงที่กลับบ้านไปก่อน แต่เพื่อนก็ไม่ยอมพูดอะไร เราจึงบอกว่า “แกบอกมาเหอะ เพราะเมื่อวานพวกเราก็เจอมาเหมือนกัน” เพื่อนผู้หญิงก็บอกว่า “ถ้าเราเล่าให้ฟัง เราจะเจออะไรไหม” ทุกคนมองหน้ากันแล้วบอกว่า “เราเล่าให้แกฟังแล้ว แกก็ต้องเล่าให้เราฟังบ้างสิ”

เพื่อนก็เล่าว่า ตอนที่กำลังท่องอัญเชิญวิญญาณกันอยู่นั้น ก็ได้ยินเสียงผู้หญิงหัวเราะ เสียงคล้ายๆ ตุ๊กแกร้อง แอ๊ะ แอ๊ะ แอ๊ะ แอ๊ะ แต่เธอมั่นใจว่ามันเป็นเสียงของผู้หญิงอย่างแน่นอน เธอจึงได้เหลือบไปมองในกระจก ก็เห็นเป็นมือหนึ่ง ลักษณะขาวซีดคล้ำๆ ห้อยลงมาแตะที่กลางถ้วยแก้ว เธอจึงได้ก้มลงมองต่ำๆ ผ่านกระจกด้วยความกลัว ปรากฏว่าเห็นเป็นร่างผู้หญิงผมยาว ใส่ชุดม่อฮ่อมสีคล้ำเปื้อนโคลน ขาทั้งคู่ชี้ตั้งไปบนเพดาน นิ้วมือแตะลงบนถ้วยแก้วคล้ายๆ ท่าหกสูง หลังจากนั้น ร่างนั้นก็ค่อยๆ หันตัวมาทางเพื่อนผู้หญิง ใบหน้าสีเขียวคล้ำ ตาเหลือกมองไปตรงกระดาน และริมฝีปากสีดำที่อ้ากว้างคล้ายพยายามจะพูดอะไรบางอย่าง



เราได้ยินเช่นนั้นก็รู้สึกจุกที่ท้อง จนต้องนั่งลงบนเก้าอี้ คิดว่าแบบนี้มันไม่ปกติแน่ ความกลัว และหวาดระแวง ทำให้เราอยู่นิ่งไม่ได้ หลังจากเลิกเรียน จึงได้ชวนเพื่อนทุกคนไปปรึกษาพระที่วัด ในขณะที่กำลังเดินออกจากโรงเรียน ภารโรงเดินมาพูดว่า “เป็นไงล่ะพวกเอ็ง ใครเค้าให้เล่นกันช่วงโพล้เพล้” เราจึงถามกลับไปว่า “ทำไมเหรอครับลุง” ลุงบอกว่า “พิธีกรรมที่ทำเฉพาะตอนเย็นก็คือการสวดศพ แล้วรู้หรือเปล่า ช่วงที่วิญญาณเค้ากำลังเดินผ่านไปมา พวกเอ็งเรียกใคร ถ้าเขาผ่านอยู่แถวนั้น เขาก็มาหาพวกเอ็งกันหมด คำโบราณที่เขาพูดกันว่า ตะวันทับฟ้า ก็คือ เป็นช่วงเปิดกับปิด แล้วเอ็งรู้หรือเปล่า ทุกวันนี้เค้าก็ตามพวกเอ็งอยู่ เพราะพวกเอ็งไม่ได้เชิญเค้าออก แล้วเขาจะไปไหนได้”

เราใจหายแว้บ รู้สึกขนลุกตั้งทั้งตัว ลุงพูดต่อว่า “รู้ไหม ตอนเที่ยง ที่พวกเอ็งนั่งกินข้าวกันอยู่ ข้าเห็นเค้านั่งแย่งข้าวพวกเอ็งกินอยู่บนโต๊ะ รีบไปหาหลวงตาซะ ให้ท่านช่วย ก่อนที่จะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้น” เราและเพื่อนๆ จึงเดินคอตก น้ำตาซึม ไปหาหลวงตาที่วัด พอไปเจอหลวงตาที่วัด ท่านก็พูดว่า “เอ็งอย่าพึ่งเข้ามา รอข้างนอกก่อน” เรากับเพื่อนๆ ก็งง จึงถามหลวงตาว่า “รออะไรครับหลวงตา…” หลวงตาบอกว่า “ข้าไม่ได้หมายถึงพวกเอ็ง ข้าหมายถึงผู้หญิงที่เดินตามพวกเอ็งมา!”



เรารู้สึกเสียวสันหลังวาบ หันไปมองข้างหลัง แต่ก็เจอแค่ความว่างเปล่า หลวงตาท่านก็ถามว่า “พวกเอ็งไปทำอะไรกันมา” เราจึงเล่าเหตุการณ์ให้หลวงตาฟัง ท่านบอกว่า “ตอนนี้ไม่ทัน เดี๋ยวข้าจะผูกสายสิญจน์ข้อมือให้ แล้วพวกเอ็งก็กลับไปกันก่อน พรุ่งนี้ตอนเช้าค่อยมาใหม่ หลวงตาจะทำบังสุกุลให้”

หลังจากที่เราและเพื่อนๆ เข้าพิธีบังสุกุลแล้ว ก็กลับไปใช้ชีวิตปกติเหมือนเดิม ส่วนผีผู้หญิง หลวงตาท่านก็ได้ทำพิธีสวดส่งวิญญาณให้ และนี่ ก็คือเรื่องราวทั้งหมด



ขอขอบคุณ เรื่องผี Pantip

📌หมายเหตุ📌
– ทางเราอาจมีการเปลี่ยนแปลงบางคำพูดหรือสำนวน เพื่อให้ง่ายต่อการเล่าเรื่องราว และฟังลื่นหูนะคะ ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ 🙏



🔻🔻ติดตามเรา🔻🔻
– Youtube: https://tiny.cc/mongkond
– Facebook: https://facebook.com/mongkondTH/
– Twitter: https://twitter.com/MongkondTH
– Website: https://mongkond.com

image_pdfดาวน์โหลดไฟล์ PDF

Leave a Reply